เสรี พงศ์พิศ
Fb Seri Phogphit
The Idiot (อัจฉริยะผู้ถูกเหยียดหยาม) ของฟีโอดอร์ ดอสโตเยฟสกี เป็นนวนิยายปรัชญาที่สำรวจความขัดแย้งระหว่างความไร้เดียงสากับสังคมที่เต็มไปด้วยการฉ้อฉล ตัวเอกคือ เจ้าชายเลฟ นิโคลาเยวิช มิชกิน ชายหนุ่มผู้มีจิตใจบริสุทธิ์และเมตตา แต่กลับถูกมองว่าเป็น "คนโง่" (idiot)
หลังจากใช้เวลาหลายปีในสถานพยาบาลที่สวิตเซอร์แลนด์ มิชกินกลับไปรัสเซียและเข้าไปพัวพันกับรักสามเส้าของหญิงสาว แม้จะพยายามนำความเมตตาเข้าสู่สังคม เขากลับถูกเหยียดหยามและไม่สามารถเปลี่ยนผู้คนได้ สุดท้ายคนรักของเขาถูกฆ่าตาย เขาตกอยู่ในภาวะวิกลจริต กลับไปยังสถานพยาบาลในสวิตเซอร์แลนด์
สาระสำคัญและปรัชญาของดอสโตเยฟสกีใน The Idiot ชะตากรรมอันน่าเศร้าของคนดีในสังคมที่เสื่อมทราม มิชกินเป็นตัวแทนของความเมตตา แต่แทนที่จะได้รับการยอมรับ เขากลับถูกเยาะเย้ยและใช้เป็นเครื่องมือ ดอสโตเยฟสกีตั้งคำถามว่า คนบริสุทธิ์สามารถอยู่รอดในโลกที่เต็มไปด้วยความโลภและการหลอกลวงได้หรือ
มิชกินถูกมองว่าเป็น "คนโง่" เพราะเขาไม่เข้าใจเล่ห์เหลี่ยมของสังคม แท้จริงแล้วเขาเป็นคนมีปัญญาทางศีลธรรมสูงสุด ดอสโตเยฟสกีวิพากษ์วิจารณ์สังคมที่เห็นแก่ตัวจนไม่สามารถยอมรับความดีที่แท้จริงได้
The Idiot แสดงให้เห็นความล้มเหลวของความไร้เดียงสาในสังคมที่เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
ตัวเอกของเรื่องมักถูกเปรียบเทียบว่าเป็นบุคคลที่มีลักษณะคล้ายพระเยซู เขาเป็นคนมีเมตตา ซื่อสัตย์ และปราศจากความมุ่งร้ายใด ๆ แต่ด้วยความไร้เดียงสาและอุดมคติบริสุทธิ์ เขากลับไม่สามารถอยู่รอดในสังคมได้ เพราะเต็มไปด้วยความหลอกลวง ความเห็นแก่ตัว และการต่อสู้เพื่ออำนาจได้
คิดถึงสังคมปัจจุบัน "ความใจดี" ถูกมองว่าเป็น "ความอ่อนแอ" โดยเฉพาะในสังคมที่มีการแข่งขันสูง เช่นธุรกิจและการเมือง ความซื่อสัตย์และคุณธรรมมักกลายเป็นอุปสรรคมากกว่าคุณค่า คนที่กระทำสิ่งที่ถูกต้องโดยไม่คิดถึงผลประโยชน์ส่วนตัวมักถูกเอาเปรียบหรือถูกมองว่า "ไร้เดียงสาเกินไป" เช่นเดียวกับเจ้าชายมิชกินที่ไม่สามารถรับมือกับความซับซ้อนและเล่ห์เหลี่ยมของสังคมได้
ปัญหาสุขภาพจิตและการถูกกีดกันจากสังคม มิชกินป่วยเป็นโรคลมชักและมีภาวะอารมณ์อ่อนไหว ซึ่งทำให้คนรอบข้างมองว่าเขาเป็น "คนโง่" (The Idiot) สะท้อนถึงสังคมปัจจุบันที่แม้จะมีการตระหนักรู้เรื่องสุขภาพจิตเพิ่มขึ้น แต่ผู้ที่มีภาวะทางจิตใจที่แตกต่างจากคนทั่วไปยังคงถูกกีดกันหรือตีตราว่าเป็น "ตัวปัญหา"
อำนาจเงินตราและสถานะทางสังคม นวนิยายเรื่องนี้วิจารณ์อย่างชัดเจนว่าความมั่งคั่งและชนชั้นทางสังคมมีบทบาทสำคัญในการกำหนดคุณค่าของบุคคล ในสังคมปัจจุบัน ความสำเร็จทางวัตถุมักมีอิทธิพลเหนือคุณธรรม คนที่มีอำนาจและทรัพย์สิน มักได้รับการยอมรับมากกว่าผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์เช่นมิชกิ้น
ความคลุมเครือทางศีลธรรมและการสิ้นสุดของอุดมคติ ความเชื่อใน "รักแท้และคุณธรรม" ของมิชกินต้องพังทลายลง เพราะความซับซ้อนของความสัมพันธ์และอารมณ์มนุษย์ โดยเฉพาะเรื่องราวอันเศร้าสลดระหว่างเขากับคนรัก
โซเชียลมีเดียและวัฒนธรรมดิจิทัลทำให้เส้นแบ่งระหว่างความจริงใจกับการเสแสร้งยิ่งเลือนราง ทำให้การมีความสัมพันธ์ที่แท้จริงยากขึ้น
นวนิยาย The Idiot ยังคงเป็นคำวิจารณ์ที่ลึกซึ้งต่อสังคมที่ไม่ให้ความสำคัญกับความเมตตาและความซื่อสัตย์สุจริต ดอสโตเยฟสกีเตือนว่าหากโลกนี้ไม่มีที่ว่างสำหรับความดีงามที่แท้จริง สังคมก็อาจกลายเป็นเวทีแห่งความเห็นแก่ตัว ซึ่งสุดท้ายแล้ว คนที่มีคุณธรรมอย่างแท้จริงอาจถูกทอดทิ้ง หรือถูกทำลายโดยระบบที่พวกเขาหวังจะเยียวยา
อัลแบร์ กามูส์ (Albert Camus) ชื่นชม The Idiot ของดอสโตเยฟสกีเป็นอย่างมาก และถือว่าเป็นผลงานที่มีอิทธิพลต่อปรัชญาและวรรณกรรมของเขาเอง มิชกิ้นเป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์และอุดมคติที่พังทลายลงในโลกที่ไร้ระเบียบและไร้เหตุผล
กามูส์มองว่า มิชกิ้นเป็น "กบฏที่ล้มเหลว" เขาพยายามนำความดีงามมาสู่โลกที่ไม่เข้าใจสิ่งนั้น แต่ความพยายามของเขากลับจบลงด้วยโศกนาฏกรรม ตรงกันข้ามกับ “คนนอก” ของเขา ซึ่งตัวละครเอกอย่าง "เมอร์โซ" ยอมรับความไร้สาระของชีวิตอย่างเฉยเมย มิชกินกลับพยายามบังคับให้โลกมีความหมายและความดีงาม แต่สุดท้ายก็ถูกบดขยี้
แนวคิดหลักของกามูส์ที่เกี่ยวข้องกับ The Idiot "โลกที่ไร้เหตุผล" และ "มนุษย์ที่แสวงหาความหมาย"
กามูส์เชื่อว่างานของดอสโตเยฟสกีสะท้อนถึงความพยายามของมนุษย์ที่จะค้นหาความหมายในโลกที่ไม่สามารถให้คำตอบได้ มิชกินเป็นตัวละครที่พยายามเชื่อมโยงอุดมคติกับความเป็นจริง แต่กลับพบว่าโลกนี้ไม่อาจรองรับความดีงามที่บริสุทธิ์ได้
"การกบฏ" กับ "การยอมจำนน" ในนิยายของดอสโตเยฟสกี ตัวละครบางตัว เช่น "อิวาน คารามาซอฟ" (ในพี่น้องคารามาซอฟ) ปฏิเสธพระเจ้าเพราะไม่อาจยอมรับความทุกข์ทรมานของมนุษย์ได้ ขณะที่มิชกินกลับ ยอมรับความทุกข์ทรมานโดยไร้เงื่อนไข ซึ่งนำไปสู่โศกนาฏกรรม ในขณะที่กามูส์เสนอว่า แทนที่มนุษย์จะยอมจำนนต่อโลกที่ไร้เหตุผล พวกเขาควร ลุกขึ้น "กบฏ" ต่อต้านมันโดยการสร้างความหมายของตัวเอง
"ความดีงามที่ไร้เหตุผล" ในสังคมที่เสื่อมทราม กามูส์มองว่ามิชกินเป็น "วีรบุรุษแห่งความดีงาม" แต่เป็นความดีงามที่ไร้เดียงสาเกินไป ในขณะที่กามูส์เสนอว่ามนุษย์ควรเผชิญหน้ากับความไร้สาระของชีวิต (absurdity of live) และต่อสู้กับมันแทนที่จะให้มันทำลายตน
The Idiot เป็นตัวอย่างอันทรงพลังของ "ความดีงามที่บริสุทธิ์" ที่พ่ายแพ้ในโลกที่เต็มไปด้วยความโกลาหล ความฉ้อฉล และความหลอกลวง