แม้จะมีดรามาใหญ่ๆที่ถาโถมเข้ามา ช่วงชิงพื้นที่ข่าวเหมือนเป็นตัวช่วยรัฐบาล ลดแรงกระแทกต่อการผลักดันเมกะโปรเจกต์ ในห้วงที่ผ่านมา หลังเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการ ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... หรือ "ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" ออกมา
อีกทั้งโดยหลักการของร่างกฎหมายดังกล่าว พรรคการเมืองทั้งในขั้วแกนนำฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเห็นไปในทิศทางเดียวกัน แตกต่างกันในรายละเอียดเพียงเท่านั้น เสียงคัดค้านจึงค่อนข้างแผ่วเบาด้วยมองเห็นทิศทางว่าเมื่อร่างกฎหมายผ่านคณะรัฐมนตรีแล้ว น่าจะผ่านสภาผู้แทนราษฎรไปได้ไม่ยากนัก แม้จะมีการสร้างเงื่อนไขและตั้งแง่บ้าง จากฝ่ายการเมืองก็ถูกมองเป็นเพียงการต่อรองเท่านั้น
กระนั้น กระแสคัดค้านและความเห็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเครื่องมือในการควบคุมให้รัฐบาลดำเนินการอย่างรอบคอบรัดกุมในทุกมิติ เพื่อป้องกันผลกระทบที่ตามมาด้านความมั่นคง อาชญากรรม และสังคม
อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลต่างๆของสังคมบางส่วน อาจทุเลาเบางบางเพื่อไปรอดูในรายละเอียดของพระราชกฤษฎีกา และประกาศต่างๆที่จะตามมา เนื่องจากมีรายงานว่า กระทรวงการคลัง ได้เสนอแผนได้เสนอแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง ระดับพระราชกฤษฎีกา ,ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี และประกาศสำนักงานกำกับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อรองรับร่างกฎหมายใหญ่ถึง 24 ฉบับ มีอะไรบ้างนั้น สำนักข่าวอิศรายงานไว้ดังนี้
“พระราชกฤษฎีกา จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ ร่าง พ.ร.ฎ.กำหนดเขตพื้นที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจร และร่าง พ.ร.ฎ.กำหนดหลักเกณฑ์และจำนวนใบอนุญาตสถานบันเทิงครบวงจร
-ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน 1 ฉบับ ได้แก่ ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แบบบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่
-ประกาศสำนักงานกำกับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ ร่างประกาศสำนักงานกำกับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เรื่อง หลักเกณฑ์ ประเภท ลักษณะ วิธีการเล่น และรายละเอียด ประเภทกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจร, ร่างประกาศสำนักงานกำกับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เรื่อง ผู้ที่มีลักษณะของบุคคลต้องห้ามเข้าไปในสถานประกอบการกาสิโน
และร่างประกาศสำนักงานกำกับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เรื่อง มาตรฐานเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในสถานประกอบการกาสิโน” (อ่านต่อฉบับหน้า)