ต้องเอ็กซเรย์

นับเป็นเรื่องน่าตกใจ กับข่าวเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่มีการซุกซ่อนวัตถุต้องสงสัยที่มีองค์ประกอบวัสดุนิวเคลียร์กัมมันตรังสีกลางเมือง

เรื่องนี้เกิดขึ้นจากกรณีที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกาได้จับกุม นายทาเคชิ เอบิซาวา หัวหน้าแก๊งอาชญากรรมญี่ปุ่น หรือ ยากูซ่า ในนครนิวยอร์กเมื่อปี 2565 ถูกดำเนินคดีในศาลเขตนิวยอร์กใต้ ข้อหาค้าอาวุธสงครามและวัตถุนิวเคลียร์ได้รับสารภาพตามคำฟ้องของพนักงานอัยการเขตนิวยอร์กใต้ โดยเป็นผลจากการดำเนินการร่วมกันของทางการสหรัฐอเมริกากับทางการของไทย ญี่ปุ่นและประเทศอื่นในภูมิภาคเกี่ยวกับเรื่องนี้

ล่าสุด กระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกาได้ส่งคำร้องขอให้ทางการไทยตรวจยึดและส่งมอบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีอาญาที่นายทาเคชิ และนายสุขสันต์ หรือบ๊อบบี้ (ขอสงวนนามสกุล) และนายสมภาค (ขอสงวนนามสกุล) และพวก

โดยขอให้ทางการไทยตรวจยึดพยานหลักฐานซึ่งอาจเป็นวัตถุนิวเคลียร์ได้แก่ สารยูเรเนียม (Uranium) และธอเรียม (Thorium) กลุ่มผู้ต้องหากล่าวอ้างว่าสามารถจัดหาวัตถุนิวเคลียร์จากประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดนไทยได้จำนวนหลายตัน โดยได้ลักลอบนำตัวอย่างจำนวนหนึ่งจากชายแดนมาซุกซ่อนอยู่ที่บ้านเช่าที่ นายสุขสันต์ เป็นผู้เช่า ในซอยประชาชื่น 6 เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ เพื่อแสดงติดต่อจำหน่ายให้แก่นายหน้าประเทศที่สามและแลกเปลี่ยนกับอาวุธสงคราม

ผลการตรวจค้นพบวัตถุต้องสงสัยชนิดผงสีเหลืองบรรจุในกล่อง 2 กล่อง โดยสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ตรวจวิเคราะห์แล้วพบว่า วัตถุต้องสงสัยดังกล่าวมีองค์ประกอบวัสดุนิวเคลียร์กัมมันตรังสี และเป็นสารยูเรเนียมด้อยสมรรถนะซึ่งมีอัตราความเข้มข้นของยูเรเนียม 235 น้อยกว่าที่มีอยู่ตามธรรมชาติ โดยอยู่ในรูปยูเรเนียมออกไซด์

ต่อมาอัยการสูงสุด โดยความเห็นชอบของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ จึงได้อนุมัติให้โอนย้ายวัตถุต้องสงสัยดังกล่าวไปให้ทางการสหรัฐอเมริกาเพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับนายทาเคชิ เอบิซาวากับพวก คดีนี้หลังจากนายทาเคชิ เอบิซาวา ให้การรับสารภาพ ต้องเข้าสู่กระบวนการกำหนดโทษ มีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี ในข้อหาค้าวัตถุนิวเคลียร์ระหว่างประเทศ ต่อไป

อย่างไรก็ตาม จากคดีดังกล่าวขอเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบเส้นทางของสารดังกล่าวเข้ามาซุกซ่อนในประเทศไทยได้อย่างไร เพื่อไม่ให่เกิดเหตุซ้ำหรือถือโอกาสเอ็กซเรย์ทั้งเมืองเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน