นักการเมืองที่มีภาพสูบบุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็น “ดาวดับ” จากฉายาที่สื่อรัฐสภามอบให้ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ได้ฉายานี้ไป เนื่องด้วยบุหรี่ไฟฟ้านนั้นยังไม่มีกฎหมายรองรับ หรือพูดให้ชัดก็คือ ผิดกฎหมายนั่นแหละ รวมกับอีก 2 เหตุผลหลักๆของการทำงาน

บังเอิญจริงที่ นักการเมืองคนนี้สังกัดพรรคที่รณรงค์ให้ปลดล็อกบุหรี่ไฟฟ้า ในขณะที่ข้อมูลปัจจุบัน ผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าในไทย เป็นเยาวชน อายุ 15-24 ปี ก็น่าจะต้องการเอาใจนักการเมืองเองและฐานเสียงที่เป็นคนรุ่นใหม่ โดยไม่ได้คิดถึงพิษภัยที่จะเกิดขึ้นกับสุขภาพของเด็กทั้งสารก่อมะเร็งและอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ

ทีนี้กลับมาดูในส่วนของรัฐบาลจะดูแลปกป้องเด็กๆอย่างไรนั้น ล่าสุด คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา ฉบับที่ พ.ศ. … ใหม่ ตามที่ กระทรวงศึกษาธิการ เสนอ โดยปรับปรุงถ้อยคำให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน ครอบคลุมลักษณะการกระทำนอกเหนือจากซื้อจำหน่ายแลกเปลี่ยนและเสพ และให้เพิ่มสินค้าที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ จากกฎกระทรวงฉบับเดิมเมื่อปี 2548 ที่ครอบคลุมเรื่องการซื้อ จำหน่าย แลกเปลี่ยน เสพสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สิ่งมึนเมา บุหรี่ หรือยาเสพติดเท่านั้น 

ซึ่งการปรับร่างกฎกระทรวงใหม่ ได้ปรับปรุงถ้อยคำให้ครอบคลุมทั้งการซื้อ จำหน่าย จ่าย แจก แลกเปลี่ยนให้ ส่งมอบ มีไว้เพื่อขาย เสพ บริโภค สูบครอบครอง หรือกระทำการอื่นใดในลักษณะเดียวกัน ซึ่งสุรา เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สิ่งมึนเมา บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า บารากู่ ตัวยาบารากู่บารากู้ไฟฟ้า น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้า ยาเสพติดหรือวัตถุออกฤทธิ์อื่นใดตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท เพื่อป้องกันไม่ให้นักเรียนนักศึกษาเข้าไปข้องเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า 

นอกจากนี้ ยังได้ประสานกระทรวงพานิชย์ในการแต่งตั้งผู้อำนวยการโรงเรียนหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องในโรงเรียน เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ให้มีอำนาจตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าหรือสิ่งผิดกฎหมายจากต่างประเทศได้ พร้อม ๆ กับมอบฝ่ายกฎหมาย ศธ. ร่างกฎหมายของกระทรวงขึ้นมา เพื่อดูแล และให้มีอำนาจตรวจยึดและทำลายสิ่งของประเภทดังกล่าว 

เมื่อ ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษาฉบับใหม่แล้ว จะมีการลงนามในประกาศกฎกระทรวงฯ ของ ศธ. เพื่อให้มีผลบังคับใช้ดำเนินการกับนักเรียน นักศึกษาที่นำสิ่งผิดกฎหมายมาในโรงเรียน โดยมีการลงโทษการกระทำความผิด แบ่งเป็น 4 สถาน ได้แก่ 

-ว่ากล่าวตักเตือน 

-ทำทัณฑ์บน 

-ตัดคะแนนความประพฤติ 

-ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือตามพฤติการณ์ความร้ายแรง

เราเห็นด้วยให้เร่งผลักดันร่างกฎหกระทรวงดังกล่าว อีกทางหนึ่งคู่ขนานไปด้วยกันคือการปราบปรามที่เข้มงวดเพราะบุหรี่ไฟฟ้ายังคงหาซื้อง่ายในโลกออนไลน์และแม้ตามตลาดนัด