สยามรัฐ ยึดมั่นอุดมการณ์ปกป้องเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ยืนหยัดรับใช้สังคมด้วยจิตสำนึกแห่งความรับผิดชอบ …*…

แม้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเคยยืนยันเสียงแข็งว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจากปัจจุบันที่เรียกเก็บอยู่ในอัตรา 7 เปอร์เซ็นต์ กระนั้น หาทำให้ข่าวในเรื่องนี้เงียบหายไปไม่ ทั้งยังมีการโหมกระพือออกมาเป็นระยะๆ…*…

นั่นเพราะต่างรับทราบกันดีว่าประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก ประสบปัญหาขาดดุลงบประมาณ จำเป็นต้องเร่งหารายได้เพิ่ม เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจภายใต้มาตรการต่างๆ โดยเฉพาะการแจกเงิน 1 หมื่นบาทตามที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไว้ รวมถึงการดูแลสวัสดิการให้ประชาชน และโครงการลงทุนขั้นพื้นฐานต่างๆ …*…

โดยก่อนหน้านี้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ระบุว่า กระทรวงการคลังกำลังศึกษาการปรับโครงสร้างภาษีของประเทศในทุกมิติ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ทั้งนี้การปรับโครงสร้างภาษีต้องใช้เวลาและดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป …*…

“คลังเตรียมให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องโครงสร้างภาษี เช่น สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เร่งพิจารณาเรื่องการปรับโครงสร้างภาษีให้สนับสนุนการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล โดยออกเป็นแพกเกจภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยปัจจุบันทั่วโลกจัดเก็บที่ระดับ 15% แต่ไทยจัดเก็บอยู่ที่ 20% ดังนั้น ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้ภาษีดังกล่าวปรับลดลงมา เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถแข่งขันในเวทีโลกได้ ต้องพิจารณาควบคู่กันไปว่า หากลดภาษีนิติบุคคลลงจะต้องไปปรับเพิ่มภาษีในส่วนใด เพื่อช่วยสนับสนุนเรื่องการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ซึ่งภาษีมูลค่าเพิ่ม  ปัจจุบันเก็บที่ 7% ถือว่ายังอยู่ในอัตราต่ำ ขณะที่ทั่วโลกจัดเก็บที่อัตรา 15-25% ส่วนจะเพิ่มเป็นเท่าไรนั้น จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะเป็นเรื่องที่อ่อนไหว ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย หากเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น จะช่วยให้คนมีฐานะดีจ่ายภาษีตามยอดการใช้จ่ายได้มากขึ้น ทำให้รัฐบาลมีเงินนำส่งเพิ่มขึ้นและส่งผ่านงบประมาณแผ่นดินลงไปช่วยคนที่มีรายได้น้อยได้ดียิ่งขึ้นเช่นกัน ทำให้มาตรการด้านสาธารณสุข อสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัย การศึกษา การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ดีตามมาด้วย ดังนั้น การจะเก็บภาษีอะไรให้สูงหรือต่ำต้องคิดให้ดี”ถ้อยแถลงจากนายพิชัย …*…

ทว่า อีกด้านหนึ่งมีการมองต่างมุมจากนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีคลังว่าแนวคิดของนายพิชัยสอดคล้องกับที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ  ที่เคยปราศรัยในเวทีหาเสียง อบจ.คือขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 15-25% ลดภาษีนิติบุคคลจาก 20% เหลือ 15% ดันจีดีพีปี 2568 โต 5% ให้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ย ทำค่าเงินบาทให้อ่อนดันส่งออก …*…

 “ผมเห็นว่าเป็นการปรับภาษีเพื่อคนรวยมากกว่าคนจน การขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจะกระทบคนจนอย่างกว้างขวาง ทั้งจากปัญหาชักหน้าไม่ถึงหลังที่รุนแรงขึ้น และจะนำไปสู่เงินเฟ้อ ยิ่งจะทำให้ความหวังที่แบงก์ชาติจะลดดอกเบี้ยเลือนลาง รวมทั้งเมื่อกำลังซื้อประชาชนลดลง อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจที่รัฐบาลพยายามจะกระตุ้นให้ตัวเลขสูงขึ้น ก็จะกลับแผ่วลง ผมเองเห็นด้วยที่จะต้องขึ้นภาษีแวตเพื่อเริ่มกระบวนการใช้คืนหนี้สาธารณะ แต่ควรจะขึ้นเพียงเล็กน้อย เช่น 1% และควรจะใช้โอกาสนี้ ปรับโครงสร้างภาษีให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น โดยเพิ่มภาษีแวตสำหรับสินค้าฟุ่มเฟือย เป็นขั้นบันได อาจจะสูงขึ้นเป็น 15% เป็นต้น”ความเห็นจากนายธีระชัยที่ได้ชี้ด้วยว่า แนวคิดว่าไทยต้องลดภาษีนิติบุคคลให้เท่ากับประเทศพัฒนาแล้ว เพื่อจูงใจให้นักลงทุนต่างประเทศมาลงทุนในไทยนั้น จะถูกต้อง ก็ต่อเมื่อไทยมีสภาพเศรษฐกิจสังคมเท่ากับประเทศเหล่านั้น แต่ธุรกิจข้ามชาติที่เล็งพิจารณาจะมาลงทุนในไทยส่วนใหญ่หวังจะได้รับการส่งเสริมการลงทุนอยู่แล้ว โดยยกเว้นภาษีนิติบุคคลระยะเวลาหนึ่ง  ดังนั้น รัฐมนตรีคลังจะต้องอธิบายได้ว่าการลดภาษีนิติบุคคลจะช่วยดึงดูดนักลงทุนรายใหม่ได้อย่างไร ในทางกลับกัน รัฐบาลนี้อาจจะมองเลียนแบบตัวอย่างมาตรการของสหรัฐในสมัยทรัมป์ยุคแรก ที่มีการลดภาษีนิติบุคคลอย่างมาก จาก 35% เหลือ 21%  ที่ปรากฏว่า ทำให้ตลาดหุ้น Dow Jones พุ่งขึ้นในช่วง 4 ปี จากระดับ 2 หมื่นจุดไปเป็นระดับ 3 หมื่นจุด แต่ผลการศึกษากลับพบว่า ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นกระจุกตัวอยู่แต่ในมือนักลงทุน …*…

 เชื่อว่า ตราบใดที่รัฐบาลยังเผชิญปัญหาชักหน้าไม่ถึงหลัง คงยากที่จะเลี่ยงการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม และเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบบานปลายทางการเมือง ก่อนดำเนินการรัฐบาลต้องมีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างรอบด้าน เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างโปร่งใส ได้รับการยอมรับมากที่สุด …*…

 โครงการธรรมโอสถ โรงพยาบาลหัวเฉียว ประจำเดือนมกราคม 68 กราบนมัสการพระวิทยากร พระเทพปฏิภาณกวี เจ้าคณะเขตภาษีเจริญและผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร มาบรรยายธรรมะ  เรื่อง “ธรรมะคือพรวิเศษ เป็นเหตุให้เกิดความสุข” เพื่อให้บุคลากรโรงพยาบาล ผู้รับบริการ และพุทธศาสนิกชน ได้นำหลักธรรมมาประยุกต์ใช้เพื่อลดความเครียดที่เกิดจากการทำงานและการใช้ชีวิตในปัจจุบัน โดยจัดบรรยายธรรมะ ศุกร์ที่ 17 ม.ค. เวลา 13.00 – 15.00 น. สามารถรับฟังบรรยายธรรมะ ที่ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 2 อาคาร 1 โรงพยาบาลหัวเฉียว หรือรับฟังผ่านFacebook Live : โรงพยาบาลหัวเฉียว 

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯไปทรงเปิดงานเปิดบ้านมูลนิธิ (Open House) : แสงสว่างสู่ทางฝัน โดยมี วราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. และ เสาวณี สุวรรณชีพ ปธ.กก.มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ พร้อมด้วยที่ปรึกษาและคณะกรรมการมูลนิธิฯ ร่วมเฝ้า ฯ รับเสด็จ ณ มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยฯ

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จลง ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชทานพระราชวโรกาสให้ รศ.พญ. ฉัตรประอร งามอุโฆษ กรรมการบริหารและเลขาธิการมูลนิธิรามาธิบดี ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นำ ดวงเดือน เจริญจิตต์กุล และคณะ เฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายเงินเพื่อสมทบทุนโครงการสร้างโรงพยาบาลรามาธิบดีและย่านนวัตกรรมโยธี

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จลง ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชทานพระราชวโรกาสให้ สุวัฒน์ ชมภูพงษ์ ปธ.กก.บห.มูลนิธิช่วยนักเรียนที่ขาดแคลนในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำคณะผู้มีจิตศรัทธา เฝ้าฯ ทูลเกล้า ฯ ถวายเงินเพื่อสมทบทุนมูลนิธิช่วยนักเรียนที่ขาดแคลนในพระบรมราชินูปถัมภ์ และในโอกาสนี้ พระเทพปฏิภาณกวี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส กรุงเทพมหานคร ร่วมเฝ้าด้วย

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จลง ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชทานพระราชวโรกาสให้ รศ.พญ.ฉัตรประอร งามอุโฆษ กรรมการบริหารและเลขาธิการมูลนิธิรามาธิบดี ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นำ วิรัช ฉัตรนิธิกุล พร้อมครอบครัว เฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายเงินเพื่อสมทบทุนโครงการสร้างโรงพยาบาลรามาธิบดีและย่านนวัตกรรมโยธี

สวัสดีปีใหม่...พายุ เนื่องจำนงค์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เข้าเยี่ยมคารวะ ประสงค์ ธนเศรษฐกร บก.อำนวยการ สยามรัฐ เนื่องในโอกาสปีใหม่ โดยมี โดยมี จินตนา จันทร์ไพบูลย์ บก.ข่าว ร่วมให้การต้อนรับ ที่สำนักงานสยามรัฐ พระราม 8 เมื่อวันก่อน

วันเด็กแห่งชาติ...เตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิด “งานวันเด็กแห่งชาติ สภากาชาดไทย 2568 : เด็กไทยหัวใจ Volunteer" พร้อมคณะผู้บริหารสภากาชาดไทย และหน่วยงานต่าง ๆ โดยเด็กและเยาวชนที่มาร่วมงานจะได้เรียนรู้หลักการและภารกิจของสภากาชาดไทย เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกด้านจิตสาธารณะ พร้อมทั้งการดูแลด้านความปลอดภัยในเด็ก ที่โถงด้านล่างอาคารสิรินธรานุสรณ์ 60 พรรษา สถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย

เปิดแคมเปญ...ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา และ รวิศรา จิราธิวัฒน์ ฉลองวาระ “มหามงคล” ยิ่งใหญ่ระดับโลก เปิดแคมเปญ “The Great Chinese New Year 2025” ตอกย้ำแลนด์มาร์กฉลองตรุษจีนที่ดีที่สุด อัดอีเวนต์และโปรโมชั่น “จับจ่าย ไหว้ กิน เที่ยว ครบจบในที่เดียวที่เซ็นทรัล” โดยมี ทศพร ศรีตุลา โชติกา อัครกิจโสภากุล ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน ปัญจรัตน์ ทรัพย์หิรัญกุล ชีวิน ปราชญานุพร และ ราณี แคมเปน ร่วมงาน ที่เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันก่อน

ครั้งแรกในไทย...อัตสึชิ ซูมิโน ปธ.กก.คาเนโบ คอสเมติกส์ (ประเทศไทย) จัดงาน KANEBO PAINT HOPE ON SPACE 2025 ครั้งแรกที่ประเทศไทยได้รับเลือกจากประเทศญี่ปุ่น ให้จัดงานเพื่อส่งเสริมจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็กๆ โดยมี อิซูมิ ทานากะ แสงเดือน อุทารวุฒิพงศ์ รัสรินทร์ ชุมสาย ณ อยุธยา ชัชนิต มุสิกไชย มหาคุณ เอพริล ศรีวิกรม์ และ ณัฐฎา วจนะสัพพัญญู ร่วมงาน ที่ Metro Art สถานี MRT พหลโยธิน