สถาพร ศรีสัจจัง
ศาสตราจารย์(ระดับ11) สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ เป็นปูชนียบุคคลชาวภาคใต้ผู้บุกเบิกสร้างสรรค์
"นวัตกรรม"เชิงวิชาการด้านวัฒนธรรมศึกษา ด้านคติชนวิทยา และด้านภาษาไทย อย่างสำคัญและอย่างกว้างขวาง เป็นผู้สถาปนาสถาบันทักษิณคดีศึกษาและพิพิธภัณ์คติชนวิทยา(ที่เกาะยอ)ขึ้นเป็นต้นแบบงานด้านนี้ในประเทศไทย
เป็นผู้บุกเบิกจัดทำ “สารานุกรมวัฒนธรรมภาคใต้” ฉบับพ.ศ.2529 โดยใช้ทุนจากภายนอกและใช้งบประมาณของรัฐเพียงเล็กน้อย (เป็นสารานุกรมทางวัฒนธรรมฉบับแรกของภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้) จนกลายเป็น “แรงดาลใจ” ให้ก่อเกิด “สารานุกรมวัฒนธรรม ไทย 4 ภาค” ของมูลนิธิสารานุกรมไทย ที่มีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯทรงเป็นองค์ประธานที่ปรึกษา
เป็นผู้สร้างองค์กรราชการเล็กๆจนกลายเป็นสถาบันทางศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาพื้นบ้านที่เป็นต้นแบบสำคัญยิ่ง และที่สำคัญที่สุด คือการสร้างคน!
คือสร้างศิษย์ทุกระดับตั้งแต่ระดับประกาศนียบัตรจนถึงระดับบัณฑิตศึกษา(เริ่มแต่วิทยาลัยครูสงขลา-วิทยาลัยวิชาการศึกษา สงขลา มศว.สงขลา จนถึง ม.ทักษิณ ปัจจุบัน)
สร้างนักวิจัยและงานวิจัยที่ทรงคุณค่าในฐานะเป็น “เมธีวิจัยอาวุโส สกว.” เจ้าของโครงการสำคัญหลายโครงการ เช่น โครงการ “โครงสร้างและพลวัตวัฒนธรรมภาคใต้กับการพัฒนา” (พ.ศ.2540:สร้างงานวิจัยในโครงการกว่า 20 ชื่อเรื่อง/สร้างนักวิจัยคุณภาพเกือบ 30 คน),โครงการ “แผนที่ภูมินิทัศน์ภาคใต้ : ฐานเศรษฐกิจและทุนวัฒนธรรม” และโครงการ “ภูมิปัญญาทักษิณจากวรรณกรรมและพฤติกรรม” (พ.ศ.2544-2547 : สร้างงานวิจัยมากมายหลายสิบเรื่อง/นักวิจัยมากกว่า 70 คน) เป็นต้น
สร้างตำราและงานเขียนเชิงวิชาการสร้างสรรค์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นวิทยากรฯลฯ อีกเป็นจำนวนมาก
จากการสร้างสรรค์ดังกล่าว ทำให้ท่านได้รับการยกย่องและได้รับรางวัลทั้งระดับใน “อาเซียน” และระดับชาติเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญๆ เช่น รางวัล “Asian Award” สาขา “Thai studies” รางวัลพระเกี้ยวทองคำ รางวัลพระสิทธิธาดาทองคำ รางวัลอนุสรณ์สงขลานครินทร์ รางวัลเข็มดุษฎีมาลา รางวัลเข็มเชิดชูเกียรติจากกระทรวงศึกษาธิการ รางวัลผู้อนุรักษ์มรดกไทยดีเด่น และได้รับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากหลายสถาบัน เป็นต้น
ได้อ่านบทกวีที่ “ศิษย์” บางคนเขียนถึงท่านในวาระ “90 ปีชาตกาลฯ” (2568)เห็นว่าน่าจะมีประโยชน์ จึงขอ"ตัดแปะ"(บางตอน)มาให้อ่านกันในที่นี้เพื่อความเป็นมงคลสักหน่อย …
@ กำเนิดจากรากเหง้าชาวใต้แท้/ริมเลสาบใหญ่แลลิบลิบหาย
ริมท้องทุ่งถ้วนทั่วมีวัวควาย/มีนกน้ำบินว่าย-มีเวิ้งนา
คืนค่ำก่ำแสงตะเกียงส่อง/วิบวิบก่องก่องพริบพริบพร่า
มีนางขี้หนอนฟ้อน “โนรา”/นิรมิตลีลาลอยฟ้าลง
เลสาบดั่งสระอโนดาต/ให้โนรานางนาฎได้ลงสรง
อรชรอ้อนแอ้นแอ่นเอวองค์/ตะโพนทับปี่ส่งโหม่งกรับกราว
เดือนสามปี่ซังกังวานจ้า/เดือนห้าฤดู “ว่าง” ได้วางว่าว
คืนค่ำ “ตะลุง” ขับ-โห่ “ปับวาว”/ “กลอนลอดโหม่ง” หวานราวน้ำผึ้งรวง!
รวมแรง “สุ่มวง” ลงเลสาบ/ได้กุ้งปลาเต็มหาบแบบหายห่วง
ขึ้นตาล น้ำหวานตั้งเคี่ยวชั่งตวง/แล้วเก็บเม็ด “ยาร่วง” มาหมกกิน…ฯ
………………………………………………………………
@ ผ่านเก้าสิบปีแห่งชาตกาล/ร่มเงาผลงานยังอิ่มอุ่น
ยังอ้างอิงอวยเอื้อยังเกื้อบุณย์/แก่ผองเหล่าเยาวดรุณรุ่นสืบมา
คือต้นแบบแห่งปราชญ์สามัญชน/ผู้ชี้หนชี้ทางสร้างคุณค่า-
วัฒนธรรมทั้งผองของประชา/ว่าคือ “ทุน” พัฒนาสร้างค่าไทย!!ฯ
ท่านศาสตราจารย์สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ เสียชีวิตในวันที่ 18 กรกฎาคม 2560 สิริอายุรวม 83 ปี หลังท่านเสียชีวิตมหาวิทยาทักษิณและสถาบันทักษิณคดีศึกษา(ต้นสังกัด)รวมถึงมูลนิธิศาสตราจารย์สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์และมูลนิธิทักษิณคดีศึกษา(ศ.สุธิวงศ์จัดตั้งขึ้นเพื่อหนุนช่วยและสืบสาน
“เจตนารมณ์” ของสถาบันฯ) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและคณะศิษยานุศิษย์ ได้ร่วมกันประกาศให้วันที่ 14 มกราคมของทุกปีเป็น “วันศาสตราจารย์สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์” ขึ้น เพื่อเป็นการแสดงมุทิตาคารวะยืนยันในการมุ่งสืบสานต่อยอดการงานและเจตนารมณ์อันสร้างสรรค์ดีงามของท่านสืบไป
และในวันที่ 14 มกราคม ปีนี้(2568) ในวาระศาสตราจารย์สุธิวงศ์จะครบ 90 ปีแห่งชาตกาล ฟังมาว่ามหาวิทยาลัยทักษิณและสถาบันทักษิณคดีศึกษาและผู้เกี่ยวข้องก็จะจัดงาน “วันศาสตราจารย์สุธิวงศ์ฯ” ขึ้นเพื่อแสดงคารวธรรมเหมือนทุกปีที่ผ่านมา
ส่วนการจะสามารถ “สืบสานต่อยอดการงานและเจตนารมณ์” ของท่านศาสตราจารย์สุธิวงศ์ฯ(โดยเฉพาะงานชิ้นเอกของท่านคือ “สถาบันทักษิณคดีศึกษา”)ได้หรือไม่ แค่ไหน หรืออย่างไรนั้น เมื่อถึงวันนี้คงต้องไปถามเอากับ๓ท่านที่เกี่ยวข้องโดยตรงละกระมัง ?
นั่นคือท่านผศ.ดร.ธัญญา พันธ์ฤทธิ์ดำ รักษาการผอ.สถาบันทักษิณคดีศึกษา ท่าน ศ.ดร.นายแพทย์วีรศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ นายกสภามหาวิทยาลัยทักษิณ และที่สำคัญสุดก็น่าจะคือท่าน รศ.ดร.ณัฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณปัจจุบันนั่นเอง!!!