ร้อยเอก ดร.จารุพล เรืองสุวรรณ

อาจารย์ประจำคณะการทูตและการต่างประเทศ

มหาวิทยาลัยรังสิต

สัปดาห์แรกของเดือนมกราคม มองโลกเหลียวไทย วันนี้ก็คงต้องเริ่มต้นด้วยการกล่าวว่า “สวัสดีปีใหม่ 2568” ท่านผู้อ่านทุกท่านครับ หวังว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีของท่านผู้อ่านทุกท่านนะครับ ขอให้ทุกท่านมีแต่ความสุข สมหวัง และสุขภาพทั้งกายและใจที่แข็งแรงตลอดปีครับ

เริ่มต้นปีมาก็ต้องขอพูดถึงควันหลงเคานต์ดาวน์ที่ผ่านมาครับ เรียกได้ว่าเป็นที่ฮือฮากันไปทั่วโลกกับ “พลุไทย” และ “งานเคานต์ดาวน์” ของประเทศไทย ที่งวดนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีมากๆจากชาวต่างชาติทั้งที่เข้ามาชมด้วยตัวเองและที่ติดตามผ่านสื่อต่างๆ

ผมมีโอกาสได้ไปเคานต์ดาวน์ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาในค่ำคืนวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมาครับ สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกประหลาดใจปนตื่นเต้นสำหรับค่ำคืนวันนั้น คือผมและกลุ่มเพื่อน คือคนไทยกลุ่มเดียวของร้านนั้นครับ ผมไม่ได้พูดเล่นนะครับ เพราะด้วยความสงสัย ผมจึงได้สอบถามพนักงานในร้าน จนได้คำตอบว่า ผมเป็นคนไทยเพียงกลุ่มเดียวในร้านจริงๆ ที่เหลือเป็นชาวต่างชาติที่จองมาตั้งแต่เดือนตุลาคม!

ยอมรับว่ารู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นมากครับ ที่ได้รู้ว่าประเทศไทยได้รับความนิยมอย่างมากจากชาวต่างชาติในการมาเคานต์ดาวน์ ซึ่งเมื่อถึงเวลาเคานต์ดาวน์….ผมเลยได้คำตอบครับ ผมไม่ประหลาดใจแต่อย่างใดครับครับ เพราะรู้สึกได้ว่า “พลุไทย คือความอลังการอย่างแท้จริง”

กล้าพูดว่า ตั้งแต่เกิดมาและเห็นมาหลายประเทศทั่วโลก…ก็ไม่เคยเห็นพลุที่ไหนอลังการเท่าเมืองบางกอก

งานนี้ก็ต้องบอกว่า ขอบคุณจากใจถึงผู้ประกอบการเอกชนในบริเวณนั้น รวมไปถึงรัฐบาลที่ได้มองเห็นความสำคัญและช่วยกันผลักดันอย่างแท้จริง จนเรียกได้ว่า ตอบโจทย์ตอบใจ ทั้งคนไทยและต่างชาติ จนได้คะแนนไปอย่างเต็มๆครับ ชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยบอกว่า นี่คือที่ที่ต้องมาซ้ำอีกหลายๆครั้ง ในยามเคาท์ดาวน์

เรียกได้ว่า มาถูกทิศถูกทาง เพราะสิ่งที่มีอิทธิพลกับมนุษย์มากคือ “ความสุข” ที่เกิดจากฮอร์โมนอะดรีนาลีนหลั่งไหล โดยเฉพาะเมื่อได้พบกับความตื่นเต้น เร้าใจ จนนำไปสู่ความหลงใหลและชื่นชม ในส่วนตัวของผมจึงมองว่านี่คือหนทางที่ถูกต้องในการสร้าง Soft Power ของประเทศไทย ผ่านการท่องเที่ยวและ man made event ซึ่งผมเชื่อว่าในอนาคตสิ่งนี้สามารถพัฒนาไปถึงระดับของ Disneyland ในต่างประเทศได้ สิ่งที่อาจจะต่างกันคือระยะเวลาในการสร้างรายได้และอิทธิพลทางความรู้สึก

อย่าว่าผู้เขียนอวยประเทศตัวเองเลยนะครับ แต่งานนี้ต้องบอกว่า ทำดีต้องชมกัน สื่อต่างชาติต่างก็ให้คะแนนประเทศไทยไม่น้อย ทั้งความอลังการ รวมไปจนถึงการมีลิซ่ามาเป็นพลุอีกดวงหนึ่งในการเคานต์ดาวน์ ผู้เขียนขอเป็นกำลังใจให้การผลักดันด้านนี้อยู่คู่กับประเทศไทย และพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ให้กลายเป็นแบรนดิ้งของประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้

แต่อย่างน้อยก็เชื่อได้ว่า…งานนี้ ประเทศไทย ได้ปักหมุดงานปีใหม่ไว้ในอ้อมใจใครหลายล้านคนทั่วโลกไปแล้ว

นับว่าเป็นเรื่องราวดีๆที่เห็นได้ชัดเจนในมุมของคนไทยคนหนึ่งในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาครับ ส่วนการเมืองและความมั่นคงของโลก ก็ต้องบอกว่า ร้อนแรงตั้งแต่ต้นปี หลายพื้นที่ทั่วโลกร้อนระอุสวนทางกับเทศกาลแห่งความสุข เอาไว้เรามาคุยกันต่อในสัปดาห์ต่อๆไปนะครับ

สำหรับสัปดาห์นี้ ต้องขอสวัสดีปีใหม่ และมอบคำอวยพรให้แก่กันอีกครั้งหนึ่งครับ

สวัสดีปีใหม่ 2568 แด่พี่น้องชาวไทยทุกท่านครับ

เอวัง