ร้อยเอก ดร.จารุพล เรืองสุวรรณ

อาจารย์ประจำคณะการทูตและการต่างประเทศ

มหาวิทยาลัยรังสิต

เหลืออีกไม่กี่วันแล้วนะครับ ที่เราจะก้าวข้ามปี 2024 เข้าไปสู่ปี 2025 สัปดาห์นี้ ผมเลยจะนำเอาสถานการณ์โลกที่น่าสนใจและมีความสำคัญมารวบรวมให้ท่านผู้อ่านได้อ่านกัน เรียกว่า เป็นการสรุปรวบยอดก่อนสิ้นปี ก่อนที่เราจะเข้าสู่ปีใหม่ไปด้วยกันครับ

ทุกท่านครับในปี 2024 เวทีการเมืองระหว่างประเทศเผชิญกับเหตุการณ์สำคัญหลายประการที่ส่งผลกระทบอย่างยิ่งใหญ่ต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและเสถียรภาพของโลก ซึ่งพอจะสรุปได้เป็นประเด็นต่างๆ ดังนี้ครับ

1. ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาก็ยังคงลากยาวมาจากปี 2023 และได้ทวีความรุนแรงขึ้น การปะทะกันยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหลายเหตุการณ์นำมาซึ่งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก นอกจากนี้ ความขัดแย้งดังกล่าวไม่เพียงส่งผลกระทบต่อภูมิภาคตะวันออกกลางเท่านั้น แต่ยังดึงดูดความสนใจและการแทรกแซงจากมหาอำนาจโลก เช่น สหรัฐอเมริกาและรัสเซีย จนเรียกได้ว่าเพิ่มความซับซ้อนและความตึงเครียดในภูมิรัฐศาสตร์โลก เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าในอนาคตข้างหน้าจะมีการยกระดับ หรือมีการเข้าร่วมวงของชาติอื่นๆโดยเฉพาะมหาอำนาจมากขึ้นหรือน้อยลงอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐในสมัยที่ 2

2. สงครามในยูเครน ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงยืดเยื้อในปี 2024 โดยยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงภายในเร็ววัน อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่จะขยายวงกว้างและดึงชาติตะวันตกเข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น การสนับสนุนทางทหารจากสหรัฐฯและพันธมิตร NATO แก่ยูเครนเพิ่มความตึงเครียดกับรัสเซีย โดยเฉพาะการทิ้งทวนของโจ ไบเดน ก่อนลุกจากตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งอาจนำไปสู่การเผชิญหน้าทางทหารที่รุนแรงขึ้น อย่างไรก็ดี ก็ต้องดูกันเป็นหนังม้วนยาวว่าหลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ รับตำแหน่งจะมีอะไรดีขึ้นหรือแย่ลงหรือไม่ แต่เป็นที่แน่นอนว่ายังคงมีผลกระทบต่อโลกในมิติต่างๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

3. การแข่งขันระหว่างสหรัฐฯ และจีน สหรัฐอเมริกาและจีนยังคงมีการแข่งขันกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งในมิติภูมิรัฐศาสตร์ ที่ต่างฝ่ายต่างพยายามขยายอิทธิพลผ่านกลไกต่างๆ อาทิ BRI และ เวที BRICS ที่จีนโลดแล่น และ Indo-Pacific Strategy และ AUKUS ที่อเมริกาเป็นโต้โผ หรือในมิติด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมชิปและเซมิคอนดักเตอร์ ที่สหรัฐฯ ใช้มาตรการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีไปยังจีน ขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการควบคุมการส่งออกแร่หายาก จนส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกและสร้างความผันผวนในเศรษฐกิจโลก และท้ายที่สุดเห็นจะเป็นมิติทางการค้า ที่โดนัลด์ ทรัมป์ออกมาประกาศว่าจะตั้งกำแพงภาษีใส่จีนอย่างสุดโต่ง ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปในปี 2025 ว่าจะเป็นอย่างที่พูดไว้หรือไม่ และจะนำพาการแข่งขันนี้ไปสู่จุดใดในอนาคต

4. การเลือกตั้งสำคัญทั่วโลก ปี 2024 เป็นปีที่มีการเลือกตั้งทั่วไปในหลายประเทศสำคัญ เช่น สหรัฐอเมริกา รัสเซีย อินเดีย และไต้หวัน ผลการเลือกตั้งเหล่านี้มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงทิศทางนโยบายทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ได้ผลลัพธ์ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะมาคุมบังเหียนโลกตะวันตกต่อเป็นสมัยที่สอง สิ่งนี้เองอาจส่งผลต่อบทบาทของสหรัฐฯ ในเวทีโลก ทั้งมิติด้านการเมือง เศรษฐกิจ และเทคโนโลยี กล่าวได้ว่า ปี 2024 ได้ปิดฉากลงด้วยการทิ้งเครื่องหมายคำถามใหญ่ๆไว้ในโลก ว่า “ผู้นำใหม่” จะส่งผลกระทบอย่างไรในปี 2025

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่รวบรวมมาในมิติของ “สถานการณ์การเมืองโลก” ที่เกิดขึ้นในปี 2024 ซึ่งแน่นอนว่าแท้จริงแล้วยังมีอีกมากมายครับ แน่เนื่องด้วยข้อจำกัดด้านพื้นที่ เราจึงต้องเลือกหยิบยกมาเฉพาะสิ่งที่มีความโดดเด่น อีกหนึ่งสิ่งที่มีความเปลี่ยนแปลงและผันผวนอย่างมากในปี 2024 คือ “ปัญหาความมั่นคง” ของโลกครับ ซึ่งมีทั้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ ด้านพลังงาน เทคโนโลยี ด้านภูมิอากาศ และอื่นๆ ซึ่งสัปดาห์หน้าเราจะมาเจาะลึกลงไปในมิติของปัญหาความมั่นคงกันครับ

สำหรับประเทศไทย ปีนี้เป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการยุบพรรคการเมือง การเปลี่ยนผู้นำ รวมไปจนถึงการได้มาซึ่งที่ทางที่ดีขึ้นในเวทีระหว่างประเทศ ไว้จะมาสรุปบ้านเมืองให้อ่านกันอีกทีนะครับ

พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ

เอวัง