แม้ฝ่ายตรงข้าม ของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ยังเชื่อว่า แม้เมื่อวันที่ 22 พ.ย.67 ที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญ จะมีมติเป็นเอกฉันท์ “ตีตก” คำร้อง “ล้มล้างการปกครองฯ” โดยชี้ว่ายังไม่มีหลักฐานพยานที่มีน้ำนักเพียงพอก็ตาม แต่จากนี้ยังมี “ดาบสองสาม” ที่ยังรอทักษิณ และพรรคเพื่อไทย รออยู่ข้างหน้า

 ยังมีคำร้องอีกนับสิบเรื่องที่อยู่ในมือ “องค์กรอิสระ” ทั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ทักษิณ ยังต้องลุ้นระทึก หรือแม้แต่คดี “มาตรา112” ที่ถูกมองว่านี่คือ “ชนักปักหลัก” ของจริง ที่ทำให้ทักษิณ เองแม้จะได้ต่อลมหายใจ ผ่านพ้น คำร้องจาก ธีรยุทธ สุวรรณเกสร ผู้ร้องที่ ถูกมองว่าเชื่อมโยงกับ “คนในบ้านป่าฯ”  ไปแล้วยกแรก


 แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อจังหวะที่ทักษิณ ได้เดินต่อ เพราะทั้ง6 ประเด็นที่ธีรยุทธ ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยนั้นถูกยกทั้งหมด เปรียบเสมือนเป็นการตอกย้ำว่า วันนี้ คนชื่อทักษิณ ยังเป็น “อาวุธ” ที่มีความจำเป็น สำหรับ “อำนาจเก่า” เพราะภารกิจ “ดับ”  พรรคสีส้ม นั้นยังไม่ลุล่วง 

 นอกจากนี้ สำหรับทักษิณ และพรรคเพื่อไทยแล้ว ในทางการเมือง กับ “พรรคร่วมรัฐบาล” ด้วยกันต้องยอมรับว่าสามารถพลิกขึ้นมากุมความได้เปรียบแม้วันนี้จะไม่ถึงกับ “มีชัย” อย่างเบ็ดเสร็จ เพราะอย่าลืมว่าก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล ถูก “พรรคภูมิใจไทย” ขี่คอ และเป็นฝ่าย เปิดเกม “ต่อรอง” ครั้งแล้ว ครั้งเล่า 

 หลายนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย ซึ่งวันนี้ดูเหมือนว่าจะ “ขยับ” ไปได้แค่การแจกเงินหมื่นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เท่านั้น โดยที่ไม่ใช้คำว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตตามที่ได้เคยหาเสียงเอาไว้  จนทำให้ พรรคฝ่ายค้าน ถล่มมาแล้วหลายครั้งถึงความไม่เป็นปกติ 


 นอกจากนี้การเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ ฉบับ 2560ซึ่งถูกมองมาโดยตลอดว่านี่คือหนึ่งในนโยบายเรือธง ที่พรรคเพื่อไทยเคยประกาศหาเสียงเอาไว้  และยังเป็นเหมือน “ความหวัง” ที่เคยทำให้พรรคประชาชน เชื่อว่าพวกเขาในฐานะ อดีตพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะได้ “ล้มล้าง” รัฐธรรมนูญ 2560 ฉบับนี้ซึ่งเป็นเหมือน “มรดกคสช.” แล้วร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนขึ้นมาแทน 

 แต่ดูเหมือนว่าบทบาทของทักษิณ จากนี้ น่าสนใจว่า เมื่อได้โอกาส “ต่อลมหายใจ” ยาวไปถึงปีหน้า 2568 ปฏิบัติการ “ดับส้ม” จะดำเนินต่อไปอย่างไร แต่เหนืออื่นใดนั่นคือการประกาศตัวตนในฐานะ “ผู้เล่น” ของขั้วอำนาจเก่า ฝั่งอนุรักษ์นิยม ว่านาทีนี้ ที่พรรคสีน้ำเงิน พรรคภูมิใจไทย หวังจะก้าวขึ้นมาแทนที่ นั้นคงต้องพับแผนกันไปก่อน !