หลังจากที่มีการแจกเงินหมื่นตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและบัตรคนพิการนั้น ทำให้กระแสความสนใจของพี่น้องประชาชน ต่อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม จะการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ 2568 ซึ่งรอบนี้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เตรียมประชุมคณะกรรมการกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมนัดแรก เพื่อหารือถึงการกำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขการได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ รวมถึงทบทวนสวัสดิการอื่นๆของรัฐจากทุกหน่วยงานด้วย ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการให้ความช่วยเหลือประชาชนให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ป้องกันไม่ให้คนจนไม่จริงเข้ามาได้รับสิทธิ อย่างไรก็ตามการประชุมครั้งนี้จะยังไม่มีข้อสรุปใดๆ เป็นเพียงการนำมติ ครม.มาแจ้งให้ทราบถึงนโยบายการทบทวนสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐก่อน
สำหรับเกณฑ์คุณสมบัติผู้มีสิทธิ์ จะต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
มีรายได้คนละไม่เกิน 100,000 บาท/ปี หรือภายในครอบครัวมีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี ทรัพย์สินทางการเงินไม่เกิน 100,000 บาท/คน ได้แก่ เงินฝาก พันธบัตร ตราสารหนี้ต่างๆ หรือในระดับครอบครัวไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี เป็นผู้ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือที่ดิน เกินจากเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด ไม่มีบัตรเครดิต ไม่มีวงเงินกู้บ้านตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป วงเงินกู้ซื้อรถตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป
ทั้งนี้เพิ่มเกณฑ์ใหม่ เรื่องรายได้เช่น กรณีผู้ลงทะเบียนเป็นแม่บ้าน ไม่มีรายได้จากการทำงาน แต่หากสามีมีรายได้หรือทรัพย์สินที่สามารถดูแลได้ทั้งครัวเรือน ให้นำรายได้ของทั้งสามี และภรรยามาบวกกัน และหารเฉลี่ยเป็นรายได้ของคนในครัวเรือนนั้นเช่น หากภรรยาไม่มีรายได้ แต่สามีมีรายได้ปีละ 3 แสนบาท หารเฉลี่ยออกมาแล้วเฉลี่ยคนละ 150,000 บาท เกินเส้นรายได้คนจนที่กระทรวงการคลังตั้งไว้ 1 แสนบาทต่อคนต่อปี เท่ากับทั้งสามีและภรรยาครอบครัวนั้น จะไม่มีสิทธิได้บัตรสวัสดิการทั้งคู่
ขณะที่บุคคลห้ามลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประกอบด้วย พระภิกษุ สามเณร ผู้ที่กระทำผิดตามหลักข้อกฎหมาย ผู้ต้องขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้รับบำเหน็จรายเดือน ผู้รับบำนาญข้าราชการการเมือง ได้แก่ สส. และ สว.
อย่างไรก็ตาม เราหวังว่ารอบนี้จะไม่มี “ผู้แกล้งจน”