18 ปีที่รอคอย สำหรับ “พี่น้องคนเสื้อแดง” เมื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ในดวงใจ ไปเยือน แถมงานนี้ “นายใหญ่” ยังขึ้นเวทีปราศรัยช่วยหาเสียงให้กับ “ศราวุธ เพชรพนมพร” ผู้สมัครลงเลือกตั้ง นายกอบจ.อุดรธานี 


 กางโปรแกรมหาเสียงของทักษิณ ที่ลุยมาช่วยลูกพรรคเพื่อไทย หาเสียงที่จ.อุดรธานี ระหว่างวันที่ 13-14 พ.ย.67  น่าสนใจตรงที่ไฮไลท์คืองานนี้จะได้เห็นทักษิณ ขึ้นเวทีปราศรัยเป็นครั้งแรก ในรอบ18ปี หลังจากกลับประเทศไทย โดยใช้เวทีปราศรัย ณ ทุ่งศรีเมือง อำเภอเมืองอุดรธานี 


 การปรากฏตัวของอดีตนายกฯทักษิณ เพื่อทำคะแนนให้กับผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ในศึกชิงนายกอบจ.อุดรฯ ที่แม้จะเป็น การเมืองสนามเล็ก แต่ต้องยอมรับว่า “คู่ปรับ” ของพรคเพื่อไทย นั้นไม่ธรรมดา  เนื่องจาก “พรรคประชาชน” ส่งตัวแทนลงชนคนของพรรคเพื่อไทย เช่นกัน 


 มิหนำซ้ำ ก่อนหน้านี้ พรรคประชาชน พรรคสีส้ม ยังยกทัพใหญ่ ลงไปช่วยผู้สมัครหาเสียงมาแล้วอย่างต่อเนื่อง ทั้ง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า , ณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และจะปิดท้ายกันที่ “แม่เหล็ก”  อย่าง “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งจะเดินทางกลับมาจากอเมริกา เป็นการเฉพาะกิจเพื่อลุยหาเสียง โดยวางคิวกันเอาไว้หลังทักษิณ เสร็จสิ้นช่วยหาเสียงที่อุดรฯแล้ว 


 พื้นที่จ.อุดรฯ เคยเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดง แต่เมื่อในช่วงระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 15ปีที่ผ่านมา หลังทักษิณ เดินทางไปต่างประเทศเพื่อหนีคดีความจึงส่งผลให้ พรรคการเมืองในแต่ละเจนเนอร์เรชั่น ดำเนินการในลักษณะที่เรียกว่าเป็นการ “ประคอง” พื้นที่ ขณะที่ “ความนิยม” เริ่มเบาบางลง 


 แต่การมาเยือนถิ่นอุดรฯ ของทักษิณ ครั้งนี้ อาจไม่ใช่แค่การวางเป้าหมาย ปลุกกระแสคนเสื้อแดงคืน หรือการปราม “พรรคสีส้ม” เท่านั้น หากแต่ยังเป็นจังหวะของการเปิดหน้า ในฐานะ “ผู้ช่วยหาเสียง” ภายหลังจากที่ “แพทองธาร ชินวัตร” ขึ้นมารับตำแหน่งนายกฯคนใหม่ ผ่านไปได้ราวสองเดือน 


 และในห้วงที่ทักษิณ เก็บตัวเงียบอยู่ในบ้านจันทร์ส่องหล้า สถานการณ์การเมืองภายนอกกลับไม่ได้สงบลงไปด้วย โดยเฉพาะเมื่อ สารพัดคำร้อง และคดีความที่เกี่ยวข้องกับตัวทักษิณ เริ่มเดินหน้าแล้ว นอกจากนี้ยังพบว่า “พรรคประชาชน” ยังใช้กลไกในสภาฯ ผ่านคณะกรรมาธิการฯ เข้ามาตรวจสอบ ค้นหาความจริงเรื่อง “ชั้น 14”  
 เหมือนกับว่า “ฝั่งตรงข้าม” กำลังเปิดหน้ารุมถล่ม เปิดแนวรบหลายทางในคราวเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่าหากยังเลือกอยู่นิ่งเฉย โอกาสที่เรื่องร้อนมีแต่จะลามไปถึงตัวนายกฯแพทองธาร ที่ถูกจี้ให้ต้องตอบคำถามเรื่อง “พ่อ” แทบไม่เว้นวัน ดังนั้นการเยือนอุดรฯครั้งนี้ของทักษิณ จึงไม่ใช่เรื่องการเมืองระดับท้องถิ่นเท่านั้น แต่เป็นการใช้ “เวที” เพื่อเปิดหน้าชนด้วยตัวเอง !