หลังเก็บตัวเงียบมานาน เปิดพื้นที่ให้ “แพทองธาร ชินวัตร” ลูกสาว ได้ดำเนินบทบาท “ผู้นำรัฐบาล” อย่างเต็มที่ แต่ล่าสุด ปรากฏว่า “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯคนที่ 23 จำต้องออกโรง ออกหน้ามาลุยเอง เพราะการเลือกตั้ง นายกอบจ.อุดรธานี คือปัจจัยสำคัญที่มีน้ำหนักมากพอ จนทำให้ทักษิณ ไม่อาจอยู่นิ่งได้

            “ประเสริฐ จันทรรวงทอง”  รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า ทักษิณ  มีกำหนดนัดหมายลงพื้นที่ ระหว่างวันที่ 13-14 พ.ย.67 เพื่อช่วยผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ซึ่งพรรคเพื่อไทย ส่ง “ศราวุธ เพชรพนมพร” ลงสนามรอบนี้ ชนกับ คนของพรรคประชาชน คือ “คณิศร คุริรัง”

            การเปิดหน้าลงมาลุยในพื้นของทักษิณ ในฐานะผู้นำทางจิตวิญญาณ พรรคเพื่อไทย ครั้งนี้ต้องนับว่าน่าจับตา เพราะเป็นโหมดของการต่อสู้ทางการเมืองอย่างชัดเจน โดยประเสริฐ ระบุว่า การหาเสียงเป็นเรื่องที่สมาชิกพรรคควรมีส่วนในการช่วยกันรณรงค์ แต่ยังไม่รู้ว่าจะมีใครไปช่วยหาเสียงบ้าง ซึ่งการช่วยหาเสียงมีรายละเอียดที่กำหนดไว้

            ดังนั้น ส่วนหนึ่งคงเป็นการไปให้กำลังใจ เพราะผู้สมัครนายก อบจ. เคยเป็นอดีต สส.พรรคเพื่อไทยหลายสมัย และเป็นที่รู้จักดีในเขตจังหวัดอุดรธานี ส่วนการที่จะไป “รุก” ในพื้นที่อีสานของทักษิณ หรือไม่นั้น ประเสริฐ มองว่า คงอยากไปเยี่ยมพี่น้องประชาชน เพราะคุ้นเคยกัน และย้ำว่าไม่กลัวว่าจะถูกร้องเรียน

            “ การเดินทางไปจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดอื่นๆของนายทักษิณ ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะท่านเป็นคนไทยคนหนึ่งจะเดินทางไปไหนก็ได้” (7 พ.ย.67)

            จังหวัดอุดรฯ ถือเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดงในอดีต และการเลือกตั้งนายกอบจ.อุดรฯ ที่จะมีขึ้นในเร็วๆนี้ ถือว่ามีความสำคัญไม่น้อย เพราะอย่าลืมว่า การเลือกตั้งอบจ.ทั่วประเทศ จะมีขึ้นในวันที่ 1 ก.พ.ปีหน้า 2568 ดังนั้นชั่วลัดมือเดียว การเลือกตั้ง สนามการเมืองระดับท้องถิ่นที่เป็น “ฐานเสียง” ของการเมืองระดับประเทศ จะระเบิดศึกขึ้น

            แต่ที่น่าสนใจไปมากกว่านั้น คือการที่พรรคประชาชน ส่งสัญญาณ “พร้อมรบ”  พร้อมชนกับพรรคเพื่อไทย ไม่สนใจว่า ผู้ช่วยหาเสียง จะมีดีกรีเป็นถึงอดีตนายกฯทักษิณ เพราะล่าสุด พรรคได้เรียกให้ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ประธานที่ปรึกษาคณะก้าวหน้า  มาช่วยหาเสียงในโค้งสุดท้าย วันที่ 15-17 พ.ย.นี้

            ศึกเลือกตั้งสนามอบจ.อุดรฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.67 นี้ จึงไม่ต่างจากศึกแห่งศักดิ์ศรี โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยเองที่ต้องพิสูจน์ความขลังของทักษิณ ที่กำลังถูดวัดรอยจาก “คนรุ่นใหม่” อย่างพิธา ที่ยัง “ฆ่าไม่ตาย”  !?