โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เรื่อง “รามเกียรติ์” ตอน “พระจักราวตาร” ที่กำลังแสดงอยู่ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน-วันที่ 8 ธันวาคม 2567 นี้ ควรค่าแก่การยกย่องให้เป็นมหรสพที่ควรดูสักครั้งในชีวิต

ด้วยมีทั้งความสนุกสนาน ประทับใจ จากองค์ประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฝีมือการร่ายรำที่งดงามปราณีต ทั้ง ฝ่ายพระ ฝ่ายนาง ฝ่ายยักษ์และฝ่ายลิง เครื่องแต่งกายที่สวยงามวิจิตรบรรจง ประกอบดนตรีบรรเลง การขับร้องและพากย์เสียงได้ ฉากและเทคนิคพิเศษสุดยิ่งใหญ่ ซึ่งในตอนนี้มีฉากใหญ่ๆหลายฉากที่เนรมิตขึ้นมาบนเวทีสร้างความตื่นตาตื่นใจ เรียกเสียงปรับมือจากผู้ชมตลอดการแสดง

ส่วนขวัญใจเด็กๆ อย่าง “หนุมาน” และเหล่านักรบวานร ก็เรียกเสียงหัวเราะได้เพียงปราฏตัวบนเวที และยังมีตัวละครลับที่ปรากฏตัวในช่วงท้ายๆ อีกด้วย

ถึงแม้จะเป็นผู้ที่ไม่ได้ลึกซึ้งถึงเรื่องราวตามวรรณคดี “รามเกียรติ์” มาก่อน ก็สามารถที่จะเข้าใจและเพลิดเพลินไปกับการแสดง ด้วยตอน “พระจักราวตาร” นั้น เป็นตอนที่แสดงกฤษฎาภินิหารของ “พระจักรา”หรือ “พระนารายณ์” ที่อวตารลงมาเป็นพระราม โอรสของท้าวทศรถ กษัตริย์แห่งกรุงอโยธยาเพื่อปราบฝ่ายอธรรม เปรียบประดุจพระราชวงศ์จักรีที่ผดุงความสุขความสงบให้กับพสกนิกรชาวไทยตลอดมา

ดำเนินเรื่องเป็นลำดับ ตั้งแต่พระอินทร์และเหล่าเทพนิกรพากันไปอัญเชิญพระนารายณ์ ขณะที่ประทับอยู่บนบัลลังก์อนันตนาคราชพร้อมพระลักษมีพระชายา ให้เสด็จลงมาปราบยุคเข็ญ พระนารายณ์จุติลงมาเป็นพระรามและพระลักษมีลงมาเป็นนางสีดา ปฐมเหตุแห่งการต่อสู้ปราบอธรรม คือทศกัณฐ์และพระญาติวงศ์ จากนั้นได้ดำเนินเรื่องเป็นลำดับตั้งแต่ ทศกัณฐ์สั่งให้มารีศแปลงกายเป็นกวางทองเข้าไปล่อลวงพระรามให้ตามกวาง แล้วลักพาตัวนางสีดาขึ้นราชรถเหาะไปยังกรุงลงกา เป็นเหตุให้เกิดสงครามระหว่าง กองทัพพระรามและทศกัณฐ์

ทั้งนี้ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ จัดการแสดงโขน ตอน “พระจักราวตาร”  ร่วมเฉลิมฉลองโอกาสมหามงคลของปวงชนชาวไทย 2 โอกาส ได้แก่ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 92 พรรษา 12 สิงหาคม 2567 และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567