ความวุ่นวายจาก “ภายนอก”  อาจทำให้ “สะดุด” แต่แน่นอนว่า “รัฐบาล” ยังคง “ไปต่อ” ! เพียงแต่อาจจะต้องใช้หลากหลายกลยุทธ์ เพื่อประคับประคองทั้ง ตัว “นายกฯคนที่31” ไปพร้อมๆกับ “รัฐนาวา” อันประกอบด้วย “พรรคร่วมรัฐบาล”

บทบาทของ “แพทองธาร ชินวัตร” ในฐานะผู้นำรัฐบาล อาจไม่จำเป็นต้องเลือกสวมบท “ปะ ฉะ ดะ”  ชนไปเสียทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องราวอันล่อแหลมทั้งการเมือง และประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับ “เกาะกูด” กรณีพื้นที่ทับซ้อน และว่าด้วยเรื่อง เอ็มโอยู 44  เพราะเรื่องนี้  “เจ้าของรัฐบาลตัวจริง” ได้กำหนด “ตัวผู้เล่น” เอาไว้หมดแล้ว

ในจังหวะนี้ นายกฯแพทองธาร อยู่ในระหว่างการปฏิบัติภารกิจในเวทีใหญ่ คือการร่วมประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ครั้งที่ 8 (GMS SUMMIT)  และการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิราวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง ครั้งที่ 10 ( ACMECS SUMMIT)   ที่นครคุนหมิง  มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 6- 7พ.ย. นี้ และก่อนเดินทางออกจากไทย จะพบว่านายกฯ ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ที่เป็นเรื่องร้อน

หลากหลายประเด็นที่จ่อคิวรอถล่มทั้งตัวนายกฯแพทองธาร จากกรณีที่ดินอัลไพน์ หรือคำร้องที่พุ่งตรงไปที่ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะผู้มีอิทธิพลเหนือพรรคเพื่อไทย และรัฐบาล

ทั้งกรณี “ชั้น14” ไปจนถึงการเปิดบ้านจันทร์ส่องหล้า เชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล หารือการตั้งรัฐบาล “แพทองธาร 1” ล้วนแล้วแต่เป็น “นิติสงคราม” ที่ต้องใช้เวลา “ยืดเยื้อ”  ไม่รวบรัด รวดเร็ว เท่าที่ใจ “ฝั่งตรงข้าม” คาดหวัง !

ด้วยระยะเวลาที่ทอดยาวออกไปเช่นนี้ ย่อมเป็นการดีต่อทั้งพรรคเพื่อไทย และยังรวมถึง “พรรคร่วมรัฐบาล” อย่างแน่นอน เพราะแม้จะเป็นการ “นับถอยหลัง” แต่อย่าลืมว่าการกอดคอกันไปเช่นนี้ ย่อมดีว่าการตัดสินใจ “ล้มกระดาน” แล้วเปิดหน้าใหม่ขึ้นมาเล่น

เพราะอย่าลืมว่าทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล แทบทุกพรรค ต้องการมากที่สุด คือ “ผลงาน” และ “คะแนนนิยม” ก่อนที่จะไปถึงการเลือกตั้งรอบหน้า  โดยเฉพาะโจทย์ที่สำคัญเหนือประเด็นทางการเมือง ณ เวลานี้คือการทำอย่างไรเพื่อให้เศรษฐกิจและปากท้องของประชาชน ดีวันดีคืน เหมือนเมื่อคราวที่หาเสียงเอาไว้ได้เป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง ต่างหาก !