ข่าวล่า มาเร็ว ทำเอาคนการเมืองแทบตั้งตัวกันไม่ติด ! เพราะอยู่ดีๆ มีรายการพลิกล็อค เกิดความเคลื่อนไหวที่ บ้านจันทร์ส่องหล้า
เมื่อมีรายงานว่า เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พา ครูใหญ่ แห่งพรรคภูมิใจไทย คือ เนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอล บุรีรัมย์ยูไนเต็ด ไปพบ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 ต.ค.67 ที่ผ่านมา
หากเป็นเรื่องจริง เท่ากับว่า ผู้มีอิทธิพล นอกพรรคการเมืองใหญ่ ทั้งเนวิน และทักษิณ ได้พบกันที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ในท่ามกลางบรรยากาศทางการเมืองที่ถูกประเมินว่า ไม่ปกติ นัก !
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้าที่จะมีข่าวว่า เนวิน ดอดเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าเพื่อพบกับทักษิณ นั้น ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 4 ต.ค. 67 การจัดงานฉลองครบรอบวันเกิดปีที่ 66 ของเนวิน ที่บ้านพักจังหวัดบุรีรัมย์ ในปีนี้คือช็อตการเมืองที่มีการตั้งข้อสังเกตเป็นทุนเดิมอยู่แล้วว่าเป็นการจัดงานเพื่อแสดงบารมีของเนวิน ในจังหวะที่ พรรคภูมิใจไทย สยายปีกอำนาจ ทั้งในสภาฯล่าง รวมถึงการมี สว.สีน้ำเงิน เอาไว้ในมือมากกว่า 100 คน
รวมทั้งภายในงานเนวิน ยังผูกข้อไม้ข้อมือ พร้อมอวยพรให้ อนุทิน ขอให้ได้เป็น นายกฯ แม้คำอวยพรในลักษณะเช่นนี้เคยมีมาแล้วก็ตาม แต่ด้วยบริบททางการเมืองในวันนี้ ที่แม้จะมี นายกฯคนที่ 31 ชื่อ แพทองธาร ชินวัตร อยู่แล้ว แต่ นิติสงคราม และ ม็อบ กำลังก่อตัวขึ้น โดยที่สองแนวรบนี้ เป็นเรื่องยากที่พรรคเพื่อไทย และทักษิณ จะรับมือได้ จนการันตีได้ว่า นายกฯแพทองธาร จะอยู่ครบเทอมได้จริงหรือไม่
ล่าสุดยังไม่มีคำตอบหรือคำชี้แจงใดๆจาก ผู้จัดการรัฐบาล อย่าง ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ในปีกของพรรคเพื่อไทย ขณะที่ อนุทิน เองใช้วิธีหลบเลี่ยงสื่อ ด้วยการวนรถรอบทำเนียบฯ ไม่ต้องการตอบคำถาม เนื่องจากตัวอนุทิน เองคือ 1ในคนที่เข้าพบทักษิณ นั่นเอง
ปริศนาการเมืองจากความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นครั้งนี้ หากเป็นเรื่องจริง การที่ผู้มีอิทธิพลเหนือ พรรคการเมือง และมีบทบาทหลักในครม. โดยที่ไม่ต้องอยู่ในทำเนียบรัฐบาลทั้งทักษิณ และเนวิน ย่อมถูกตีความให้ออกมาในทางที่เป็น บวก ต่อเจ้าของบ้านจันทร์ส่องหล้า มากกว่าใคร !
โดยเฉพาะในยามที่ ลูกสาว คือนายกฯอิ๊งค์ กำลังเผชิญหน้ากับนิติสงคราม สารพัดเรื่องร้องเรียนล้วนมีผลต่อเก้าอี้นายกฯทั้งสิ้น และเหนืออื่นใดยังจะกลายเป็นการ สยบ กระแสร้อน ๆ กระพือกันรายวันว่าใกล้ถึงเวลาเปลี่ยนตัวนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยไปสู่มือ ภูมิใจไทย เสียแล้ว !