การเล่นเกมในสนามที่ประเมินแล้วว่าหากมีโอกาส ชนะ มากกว่า แพ้ จึงควรขยับเพื่อสร้าง แต้มต่อ แทนที่จะเดินหน้า เดินดุ่ย ลุยเข้าไปในวังวนแห่งความยุ่งยาก และสุ่มเสี่ยงจะพากันพัง 
 
การพักเบรกเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ รายมาตรา ของพรรคเพื่อไทยเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงมีขึ้นอย่างที่เห็น  เมื่อ บิ๊กเนม ของพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ส่งสัญญาณชัด ว่าเวลานี้สิ่งสำคัญของรัฐบาล คือการเร่งแก้ไข และให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะที่เชียงราย ต้องเร่ง เยียวยา โดยไม่ต้องรอหลังน้ำลด 

 เมื่อนายกฯแพทองธาร  ชูธงกันที่เรื่องน้ำท่วม  บรรดา แม่ทัพนายกอง ของพรรคเพื่อไทย ไปจนถึง รัฐมนตรี ในครม. จึงต้องพากันเบรกตัวโก่ง แล้วหันมาประสานเสียง ให้สอดคล้องไปตามนายกฯ บัญชา ! 
 
 ด้วยเหตุนี้การนัดหมาย แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล หารือเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ รายมาตรา ที่พรรคเพื่อไทย วางพล็อตเอาไว้ด้วยกัน 6 ประเด็น โดยเฉพาะเรื่องนิยามคำว่า จริยธรรม และคำว่า ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ จึงถูก ยกเลิก ไปโดยปริยาย 
 
เกมนี้แม้ พรรคเพื่อไทย ถูกมองว่า เสียหน้า เพราะเป็นพรรคแกนนำรัฐบาลที่ประกาศท่าทีชัดเจน แข็งกร้าว เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ก็ตาม แต่ย่อมดีกว่า เสียหาย หนักหนาและรุนแรงไปมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะอย่างน้อยที่สุด การ แตะเบรก เรื่องนี้ ก็อาจลดทอน น้ำหนัก คำร้อง ที่มี นักร้อง ไปยื่นเรื่องให้ องค์กรอิสระ ตรวจสอบ ได้เปลาะหนึ่ง 
 
เมื่อเกมแก้รัฐธรรมนูญ ถูกเบรกออกไป การเดินหน้าแก้ไขปัญหาน้ำท่วม จึงมาพร้อมกับจังหวะของการ แจกเงินหมื่น เฟสที่ 1 ให้กับ กลุ่มเปราะบาง ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ จำนวน 14.5 ล้านคน โดยให้เป็น เงินสด ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา 
 
จากปฏิบัติการสร้าง พายุหมุนเศรษฐกิจ ตามนโยบายของพรรคเพื่อไทย ผ่านการแจกเงินคนละ1หมื่นบาทรอบนี้ น่าจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่ม คะแนนนิยม ให้กับพรรคเพื่อไทย และตัวนายกฯแพทองธาร มากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ต่างถูกถล่มอย่างหนักตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งใหม่ ๆ เมื่อต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา 
 
อย่างน้อยที่สุด เวลานี้ ผลจากการสำรวจ นิด้าโพล  ผ่านหัวข้อ การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 3/2567 สะท้อนว่า  แพทองธาร คือบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ มาเป็นอันดับ 1 ร้อยละ 31.35 

 ทว่าโจทย์ใหญ่ที่พรรคเพื่อไทยยังต้องเดินหน้ากันต่อไป ยังไม่จบแค่การทำนโยบายแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชน  เพราะผลจากการสำรวจนิด้าโพล เช่นเดียวกัน ชี้ว่า พรรคการเมือง ที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ กลายเป็น พรรคประชาชน พรรคสีส้ม ที่คว้าอันดับ 1 แซงหน้าพรรคเพื่อไทย นั่นเอง