ร้อยเอก ดร.จารุพล เรืองสุวรรณ
อาจารย์ประจำสถาบันการทูตและการต่างประเทศ
มหาวิทยาลัยรังสิต
สัปดาห์ที่แล้วเราได้พูดคุยกันถึงฉากทัศน์ความมั่นคงในโลกอนาคต โดยที่ผมได้เล่าให้ทุกท่านอ่านว่า โลกในอนาคตข้างหน้าเราอาจได้พบกับภัยคุกคามความมั่นคงแบบผสมผสาน ทั้งความมั่นคงแบบดั้งเดิม (Traditional Security Threats) ความมั่นคงรูปแบบใหม่ (Non-traditional Security Threats) และผลกระทบด้านลบของเทคโนโลยี (Technological backfire) หรือที่เรียกรวมกันแบบเก๋ๆว่า “TNT”
แล้ว TNT จะส่งผลอะไรต่อโลกเรา?
ท่านผู้อ่านน่าจะคุ้นเคยกับคำว่า VUCA World กันดีใช่ไหมครับ?
VUCA World เป็นคำที่ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกๆโดย วิทยาลัยการทัพบกสหรัฐฯ (U.S. Army War College) เมื่อทศวรรษ 1990 เพื่ออธิบาย “สภาวะของโลกภายหลังสงครามเย็น” โดยประกอบไปด้วยตัวอักษร 4 ตัวที่มีความหมายเป็นของตัวเอง ได้แก่
V = Volatility หรือ ความผันแปร คือการเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ปุบปับ ขึ้นๆลงๆ คาดเดาได้ยาก เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ซึ่งหากมองในทางการเมืองและความมั่นคง ก็หมายความถึงสถานการณ์ทางการเมืองของโลกมีความผันแปรสูง ยากที่จะคาดเดาสถานการณ์ ภัยคุกคามต่างๆจะเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก เปลี่ยนแปลงได้ง่ายแต่คาดเดาผลลัพธ์ได้ยาก
U = Uncertainty หรือ ความไม่แน่นอน คือความไม่แน่นอนของผลลัพธ์ แม้ว่าจะมีสาเหตุและผลลัพธ์ที่เข้าใจได้ แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอาจไม่ใช่เช่นนั้น เรียกได้ว่ามีหลายปัจจัยที่อาจส่งผลให้ผลลัพธ์เปลี่ยนแปลงไป สิ่งที่คิดว่าแน่นอนกลับกลายเป็นไม่แน่นอน เช่น ความขัดแย้ง การเปลี่ยนแปลงทางนโยบาย ปัญหาสังคมใหม่ๆ ปัญหาสิ่งแวดล้อมและภัยธรรมชาติ เป็นต้น
C = Complexity หรือ ความซับซ้อน คือความซับซ้อนของสถานการณ์ต่างๆของโลก ที่ปัจจัยต่างๆมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน จนทำให้ยากที่จะรับมือสืบเนื่องจากการพัฒนาของเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารและการเคลื่อนตัวของข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็วและเสรี ผลลัพธ์ของสถานการณ์หนึ่งอาจเป็นการยากที่จะคาดเดา รวมไปจนถึงในมิติของหน่วยงานในการรับมือกับปัญหา
A = Ambiguity หรือ ความคลุมเครือ คือความคลุมเครือของเหตุและผลลัพธ์อันสืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จนทำให้ข้อตกลง ข้อขัดแย้ง การคาดการณ์ ทำได้อย่างจำกัด นอกจากนี้ ความคลุมเครือยังเป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากสามตัวอักษรแรกอีกด้วย
ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นตัวแบบที่อธิบายถึง “โลกหลังสงครามเย็น” ซึ่งเราคงไม่ปฏิเสธว่าเกิดขึ้นจริง จนทำให้ VUCA world ถูกนำไปใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในสาขาความมั่นคง รัฐศาสตร์การเมือง หรือแม้แต่การบริหารงานภาครัฐและธุรกิจ
อย่างไรก็ดี จากการศึกษาเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวโน้มของปัญหาความมั่นคงในอนาคต ข้อมูลจาก The Global Risks Report 2024 โดย World Economic Forum และ Global Trends 2040: A More Contested World โดย The U.S. National Intelligence Council ชี้ให้เห็นว่า ปัญหาความมั่นคงจะมีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งในมิติของความแตกแยกของสังคม สงครามระหว่างประเทศ ที่ล้วนแล้วแต่ถูกเสริมด้วยปัญหาที่มากับสังคมข้อมูลข่าวสารและโลกไซเบอร์ จนทำให้โลกที่เหมือนจะใกล้ชิดกันมากขึ้น กลับสร้างความแตกแยกและความเปราะบางให้เพิ่มมากขึ้นได้ไปพร้อมๆกัน ยกตัวอย่างเช่น ความขัดแย้งในอิสราเอล กลับสร้างความแตกแยกให้กับสังคมอื่นๆที่อยู่ห่างกันไปไกลนับพันๆไมล์ได้ ด้วยพลังของการติดต่อสื่อสาร และความเสรีของข้อมูล จนอาจส่งผลกระทบต่อการบริหารงานของรัฐบาลทั่วโลก รวมถึงความมั่นคงทางการเมืองด้วยเช่นกัน
สิ่งนี้อาจจะชี้ให้เห็นว่า โลกในอนาคตข้างหน้า อาจไม่เพียงพอที่จะอธิบายได้ด้วย VUCA World อันได้แก่ ความผันแปร ความไม่แน่นอน ความซับซ้อน และความคลุมเครือ อีกต่อไป แต่อาจจำเป็นต้องเพิ่ม “ความเปราะบาง” (Fragile) หรือแม้แต่ “ความแตกร้าว” (Fragmented) และปัจจัยอื่นๆเข้าไปด้วย
และไม่แน่ โลกที่มี TNT เป็นฉากทัศน์ความมั่นคง อาจเพิ่มตัวอักษรเข้าไปอีกเรื่อยๆตามวิวัฒนาการของภัยคุกคาม
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ เป็นบทวิเคราะห์ถึงอนาคต ซึ่งอาจเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้
ในฐานะนักวิชาการด้านความมั่นคง ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผมจะทำนายไม่แม่น และหวังว่าวันหนึ่งเราจะมีตัวอักษรใหม่ๆ ที่มีความหมายเชิงบวก ให้เราๆได้ชื่นใจกันบ้าง
เอวัง