เรียบร้อย “โรงเรียนทักษิณ” โดยไม่มีอะไรให้ต้องลุ้น ว่าจะเกิดรายการ “พลิกโผ” เมื่อโฉมหน้า ครม.ใหม่ ในรหัส “แพทองธาร 1” ปรากฏออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว  โดยมีการโปรดเกล้าฯ ลงมาเมื่อวันที่ 4 ก.ย.67
    
รายชื่อที่เคยปรากฏผ่านหน้าสื่อก่อนหน้านี้ จาก “พรรคร่วมรัฐบาล” ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะเป็นการเสนอรายชื่อตามโควต้าสัดส่วนของแต่ละพรรคโดยใช้ “คณิตศาสตร์การเมือง” พรรคไหนมีกี่เสียง ก็มาแลกเอาเก้าอี้รัฐมนตรี ไปตามข้อตกลง
    
และแม้การจัดครม.ชุดนี้ จะมีการความแปลกประหลาด เพราะพรรคเพื่อไทย ได้เสียงจากฝั่ง “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” สส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ซีกหนึ่ง แยกออกจากฝั่ง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อันเนื่องมาจาก “ความขัดแย้ง” ที่เคยระอุ จนมาสู่จุดแตกหัก 
    
ที่สร้างความฮือฮา และถูกจับตามาโดยตลอด คือกระทรวงกลาโหม ที่รอบนี้ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ผู้มีอิทธิพลเหนือพรรค เลือก “เปลี่ยนตัวเล่น” ด้วยการเอา “สุทิน คลังแสง” ออกจากเก้าอี้ รมว.กลาโหม แล้วส่ง คนที่ไว้วางใจ คือ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ ไปนั่งควบ “สนามไชย 1”  แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ มาก่อนหน้านี้ก็ตาม 
    
นอกจากนี้ ยังถึงคิว “บิ๊กเล็ก”  พล.อ.ณัฐพล นาคพานิชย์  นายทหารที่ใกล้ชิด “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สมัยนั่งเป็นนายกฯคนที่ 29 ไปทำหน้าที่ “รมช.กลาโหม” อยู่กับ ภูมิธรรม และเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่เคยถูก “คนเสื้อแดง” ประกาศต่อต้าน ขวาง บิ๊กเล็กเข้าไปอยู่ที่กระทรวงกลาโหม มาตั้งแต่ช่วงตั้งครม. “เศรษฐา 1” 
    
การจัดทัพครม.ใหม่ “แพทองธาร 1” แม้จะมีขึ้นท่ามกลางเสียงโจมตีว่าเป็นการส่งผ่านตำแหน่งให้กันเองในครอบครัว ไล่ตั้งแต่ตัวนายกฯแพทองธาร มาก็ตาม แต่การที่จะปล่อยให้ความเคลื่อนไหวเหล่านั้นดำเนินยืดเยื้อต่อไป ย่อมมีแต่กระทบต่อความเชื่อมั่นทั้งในภาพรวม ไปจนถึงตัวนายกฯ ด้วยเหตุนี้ เมื่อมีการโปรดกล้าฯครม.ใหม่ลงมาแล้ว 
    
การเดินหน้าในจังหวะ “รุกคืบ” ด้วยความรวดเร็วจึงต้องเริ่มทันที เนื่องจากล่าสุดมีรายงานว่านายกฯ เตรียมนำคณะรัฐมนตรีใหม่ เข้าเฝ้าเพื่อถวายสัตย์ฯ ในวันศุกร์ที่ 6 ก.ย.นี้ จากนั้นจะมีประชุมครม.นัดพิเศษ ในวันเสาร์ที่ 7 ก.ย.ตามมาทันที และคาดว่าการแถลงนโยบายรัฐบาลจะมีขึ้นในวันที่11 และวันที่ 12 ก.ย.นี้
    
ขณะที่ “นักร้อง” ได้เริ่มปฏิบัติการ “เขย่าครม.”  เปิดเกม สอย “นายกฯคนที่ 31” ไปพร้อมๆกัน !