รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์
ที่ปรึกษาสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
“สุนทรียะ" เป็นคำที่เกี่ยวกับความสวยงามหรือคุณค่าที่แสดงถึงคุณลักษณะหรือความรู้สึกที่เกี่ยวข้องกับความงาม ความประณีต และความลึกซึ้งทางความคิด สุนทรียะนั้นเชื่อมโยงกับความสามารถในการรู้สึกถึงความงามหรือความเพลิดเพลินจากสิ่งต่าง ๆ เช่น งานศิลปะ ภาพยนตร์ เพลง หรือวรรณกรรม สุนทรียะจึงเป็นเรื่องของความซาบซึ้งหรือความเข้าใจถึงคุณค่าทางจิตใจและความรู้สึกที่เป็น การมองหาความสวยงามหรือความหมายในศิลปะ วรรณกรรม และธรรมชาติหรือสิ่งต่าง ๆ รอบตัว
ทำไม? ผู้นำหรือผู้บริหารต้องมีสุนทรียะ
แท้จริงแล้วบุคคลทุกคนควรมีสุนทรียะในหัวใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำหรือผู้บริหารไม่เพียงแต่ต้องมีภาวะผู้นำและความสามารถทางการบริหารจัดการเท่านั้น!!! แต่ผู้นำหรือผู้บริหารต้องมีความเข้าใจในสุนทรียะอันเป็นความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนหรือการมีประสบการณ์ต่อสิ่งที่ถือว่างามหรือดีงามทั้งในธรรมชาติและวัฒนธรรมซึ่งทั้งหมดถือเป็น “ความงามที่มีความหมายในชีวิต”
นอกจากผู้นำทุกระดับจะต้องมีทักษะและความรู้ที่หลากหลายเพื่อพัฒนาองค์กรหรือทีมงานไปสู่ความสำเร็จ แต่สุนทรียะก็เป็นปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งซึ่งผู้นำทุกระดับไม่อาจมองข้ามไป เนื่องจากสุนทรียะของผู้นำเป็นความสามารถในการรู้จักใช้และประยุกต์ความงามในบริบทต่าง ๆ เพื่อสร้างความแตกต่างและเพิ่มคุณค่าให้กับตนเองและองค์กร
ผู้นำหรือผู้บริหารที่มีสุนทรียะจะส่งผลกระทบเชิงบวกและสร้างสรรค์ทั้งต่อตัวผู้นำ ผู้ร่วมงานหรือลูกน้อง และองค์กร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสร้างความประทับใจแรกและความน่าเชื่อถือผ่านการนำเสนอเรื่องราวและภาพลักษณ์ของผู้นำ ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถกำหนดทิศทางความสัมพันธ์ในระยะยาว สุนทรียะยังสามารถช่วยให้ผู้นำดูเป็นมืออาชีพ มีความเอาใจใส่ในรายละเอียด พิถีพิถัน และแสดงถึงความตั้งใจที่ดีต่อทีมงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การมีความเข้าใจในสุนทรียะยังช่วยให้ผู้นำนำเสนอวิสัยทัศน์และพันธกิจขององค์กรได้อย่างชัดเจนและทรงพลังก่อให้เกิดความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจในระยะยาวด้วย
การประยุกต์ใช้สุนทรียะในการทำงานจึงเป็นมิติที่ลึกซึ้งและมีความหมาย ช่วยให้ผู้นำสามารถสร้างแรงบันดาลใจและเชื่อมโยงกับทีมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การมีมุมมองด้านสุนทรียะยังช่วยให้ผู้นำสามารถสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาและเติบโตขององค์กรในระยะยาว
หากผู้นำหรือผู้บริหารมีสุนทรียะแล้วจะเกิดอะไรขึ้นในองค์กรบ้าง?
การส่งเสริมบรรยากาศการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพ เพราะไม่เพียงแต่การตกแต่งภายในหรือการออกแบบสินค้า/ผลิตภัณฑ์ แต่ยังรวมถึงการจัดการสภาพแวดล้อมในการทำงาน การเลือกใช้สี แสง และการจัดวางพื้นที่ที่เหมาะสม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อขวัญกำลังใจของและประสิทธิภาพในการทำงานของบุคลากรได้มาก ผู้นำที่ให้ความสำคัญกับบรรยากาศการทำงานที่ดีจะมุ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ลดความเครียด และเพิ่มความพึงพอใจในการทำงาน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาทักษะของบุคลากร ยิ่งไปกว่านั้นการมีสภาพแวดล้อมที่ดีจะช่วยลดอัตราการลาออกและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการสรรหาและฝึกอบรมบุคลากรใหม่
การสื่อสารและการโน้มน้าวใจที่ทรงพลัง เพราะสุนทรียะในตัวของผู้นำจะมีส่วนช่วยให้ข้อความหรือแนวคิดที่ต้องการสื่อออกไปมีความน่าสนใจและเข้าใจได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบงานนำเสนอที่มีการจัดวางอย่างเป็นระเบียบ การเลือกใช้สีที่เข้ากับเนื้อหา หรือการใช้ภาพประกอบที่สื่อความหมายได้ดี ล้วนแต่มีส่วนในการเสริมสร้างความเข้าใจและความจำของผู้รับสาร ทำให้ผู้นำสามารถโน้มน้าวใจและสื่อสารกับทีมงานหรือลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
การสร้างวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรมหรือการสร้างวัฒนธรรมที่สนับสนุนความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม การที่ผู้นำให้ความสำคัญกับความงามและการออกแบบที่ดี จะเป็นการส่งเสริมให้ทีมงานรู้สึกมีอิสระทางความคิดและกล้าทดลองสิ่งใหม่ ๆ โดยไม่ถูกจำกัดด้วยกรอบความคิดแบบเดิม ๆ การเปิดรับไอเดียและมุมมองที่หลากหลายจะช่วยเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวได้ดีต่อการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจที่ไม่หยุดนิ่ง
จะเห็นได้ว่าสุนทรียะไม่ใช่แค่เรื่องของความงามที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเท่านั้น แต่เป็นองค์ประกอบที่สำคัญภายในที่สามารถสร้างความประทับใจ สร้างแรงบันดาลใจ และสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมาย ผู้นำหรือผู้บริหารที่ให้ความสำคัญกับสุนทรียะจะเอื้อให้องค์กรสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อความคิดสร้างสรรค์ ส่งเสริมความภักดีและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างทีมงาน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้อย่างยั่งยืน
ณ วันนี้ ผู้นำหรือผู้บริหารองค์กรทุกท่านต้องบ่มเพาะหัวใจแห่งสุนทรียะให้มาก เพื่อรับมือกับพลังและศักยภาพของบุคลากรในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและรุนแรง เพราะสุนทรียะก็คือศิลปะแห่งการครองใจ “คนและองค์กร” ที่ต้องใช้ควบคู่กับ “ศาสตร์” หรือทฤษฎีทางการบริหารจัดการนั่นเองครับ...