ปัจจัยการยุบพรรคก้าวไกล เราได้มองเห็นการเตรียมแผนรองรับสถานการณ์วิกฤติของพรรคการเมืองดังกล่าว โดยมีการเตรียมพรรคการเมืองสำรอง และยังมีการเตรียมบุคคลไปสมัครสมาชิกพรรคการเมืองดังกล่าวไว้เพื่อเพื่อเตรียมเลือกตั้งซ่อมสส.พิษณุโลกอีกด้วย
แม้จำนวนสส.ของอดีตพรรคก้าวไกล ซึ่งปัจจุบันเป็นพรรคประชาชนนั้น จะมีจำนวนมากที่สุก แต่ก็มากกว่า พรรคการเมืองอันดับ 2 เพียง 2 เสียง
ทั้งนี้ทั้งนั้น หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น นิด้าโพลไปสำรวจความคิดเห็นของประชาชน “ความเป็นไปได้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า” ออกมา พบว่าประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่ พรรคการเมืองซึ่งได้รับชัยชนะแบบแลนด์ไสลด์ จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้
และหากพรรคการเมืองซึ่งได้รับชัยชนะเป็นอันดับที่หนึ่ง แต่ไม่ใช่การชนะแบบแลนด์ไสลด์อาจจะต้องไปเป็นพรรคฝ่ายค้าน และ ท้ายที่สุดประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีพรรคการเมืองจับมือเป็นพันธมิตรกันและหลีกทางให้กันในบางเขตเลือกตั้ง
จากผลสำรวจดังกล่าวนั้นเป็นสิ่งที่ 2 ข้อแรกนั้น อาจตกผลึกมาจากการเมืองที่ผ่านมา หากแต่ในข้อสุดท้าย การสับหลีกของพรรคการเมืองที่เป็นพันธมิตร ในการเลือกตั้งใหญ่อาจเป็นไปได้ยาก เพราะทุกพรรคการเมืองต้องลงสนามและสู้กันเพื่อให้ได้สส.มากที่สุด ไม่ใช่การเลือกตั้งซ่อมเพียงเขต หรือ 2 เขต
กระนั้น หากมีการยุบสภาฯเกิดขึ้นก่อนวันที่ 9 กันยายน 2567 สส.ของอดีตพรรคก้าวไกลทั้ง 143 คนจะถูกกวาดตกเวทีการเมืองไปหมดในการเลือกตั้ง เนื่องจากสังกัดพรรคไม่ครบ 30 วันตามกฎหมายกำหนด โดย มาตรา 97 บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ เป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (3) เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคการเมืองเดียวเป็นระยะเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในกรณีที่มีการเลือกตั้งทั่วไปเพราะเหตุยุบสภาระยะเวลาเก้าสิบวันดังกล่าวให้ลดลงเหลือสามสิบวัน”
ซึ่งการยุบสภาเป็นสิ่งที่หลายฝ่ายไม่ปรารถนาจะให้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายการเมือง ในพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายค้าน รวมทั้งภาคเอกชน
ฉะนั้นโอกาสที่จะมีการล้มกระดานและเลือกตั้งใหม่ในเร็วนี้อาจจะยังไม่เกิดขึ้น และจะเป็น “ดาบอาญาสิทธิ์” ของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในการบริหารอำนาจ และโอกาสในการสร้างผลงานและฟื้นฟูคะแนนนิยมในห้วงเวลาอีก 2 ปี กับอีก 11 เดือนที่เหลืออยู่เพื่อชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งหน้า