อ๊าฟเตอร์ช็อค เกิดขึ้นที่ “พรรคเพื่อไทย” เมื่อปฏิบัติการสรรหา “นายกฯคนใหม่” มาแทน “เศรษฐา ทวีสิน”  เหมือนจะง่ายดาย  แต่กลับเกิดอาการสะดุดเป็นระยะๆ  !
    
หลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัย ให้เศรษฐา ต้องพ้นจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ส่งผลทำให้ครม.จะจบทั้งคณะ จะเหลืออยู่ก็เพียงตำแหน่ง “รักษาการ” เท่านั้น จากนั้น “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ในฐานะ “ผู้มีบารมีตัวจริง” เหนือพรรคเพื่อไทย เชิญ “แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล” เข้าหารือที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ย่านบางพลัด ในช่วงเย็น 
    
ก่อนมีรายงานข่าวสะพัดไล่หลังว่า ทักษิณ เคาะชื่อ “ชัยเกษม นิติสิริ” แกนนำพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรค ให้เข้ามารับไม้ต่อจากเศรษฐา โดยในการหารือค่ำคืนเมื่อวันที่ 14 ส.ค.67 ชัยเกษม ได้เดินทางมาร่วมด้วย 
    
เหตุการณ์ไม่น่าจะมีอะไร ให้ต้องเปลี่ยนแปลงหรือ พลิกกลับ เมื่อ “ทักษิณ” เคาะชื่อชัยเกษม แต่ปรากฎว่า ที่ประชุมสส.ของพรรค หารือกันแล้ว กลับมองว่าคนที่เหมาะสม คือ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่มีความพร้อมมากกว่าชัยเกษม ทั้งเรื่องสุขภาพ และที่สำคัญ สส.ของพรรคยังหวังที่จะได้อุ๊งอิ๊ง ไปเดินสายช่วยหาเสียง ลงพื้นที่ให้ตามจังหวัดต่างๆ 
    
และในช่วงบ่ายเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมาก่อนถึงวันโหวตนายกฯคนใหม่ ปรากฏว่า ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เคาะที่ชื่ออุ๊งอิ๊ง รับไม้ต่อเศรษฐา เพื่อให้พรรคร่วมรัฐบาลโหวตเลือกนายกฯในวันนี้ 16ส.ค.67 
    
ชื่อของชัยเกษม เกิดอาการสะดุด ด้วย “เหตุปัจจัย” ที่อาจกลายเป็น “กับดัก” รออยู่ข้างหน้า ทั้งกรณีที่ชัยเกษม เคยหาเสียงเสนอแก้ไข ม.112 รวมทั้งเคยเสนอความเห็นต่อเรื่องนี้  ซึ่งดูจะสอดคล้องกับ การแถลงข่าวของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลแทบทุกพรรค ที่ต่างออกมาประกาศจุดยืนชัดเจนว่า พร้อมสนับสนุน “แคนดิเดตนายกฯ” จากพรรคเพื่อไทย แต่ต้องไม่แตะ ม.112 
    
สถานการณ์ทางการเมืองหลังวันที่เศรษฐา หลุดเก้าอี้ ครม.พ้นทั้งคณะ คือภาพแห่งความวุ่นวายที่ฟากพรรคเพื่อไทยเป็นหลัก เพราะแม้พรรคจะเคาะชื่อแพทองธาร ลูกสาวเจ้าของพรรคตัวจริงก็ตาม แต่ลึกๆแล้วทุกคนรู้ดีว่า ทั้งทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ดามาพงษ์ แม่ของเธอเอง ล้วนจำต้องตัดใจ ส่งลูกลงสนามที่มีกับดักรออยู่ข้างหน้า !