ทั่วโลกจับตาศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2567 ที่นับถอยหลังไปก็เหลือเพียงอีก 3 เดือนเท่านั้น ไม่เพียงแต่เหตุพยายามลอบยิง นายโดนัล ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัญฯ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน หรือการเปลี่ยนม้ากลางศึก ที่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนปัจจบัน ยอมถอนตัวและสนับสนุน นางกมลา แฮริส เป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครต
แต่ห้วงเวลา 3 เดือนก่อนการเลือกตั้ง อาจมีความเคลื่อนไหวใดๆ ทางด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เพื่อเรียกคะแนนนิม ที่อาจส่งผลต่อการเมืองและเศรษฐกิจ
โดยเฉพาะในมุมของเศรษฐกิจนั้น ข้อมูลจากนายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เดือน พฤษภาคมที่ผ่านมา สหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีกับสินค้าจีน มีจำนวน 14 รายการ ได้แก่ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เซมิคอนดักเตอร์ โซลาร์เซลล์ และกระบอกฉีดยาและเข็มฉีดยา และส่วนประกอบของแบตเตอรี่ แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนสำหรับรถยนต์ EV และรถยนต์ที่ไม่ใช่รถยนต์ EV กราไฟต์ธรรมชาติ แร่ธาตุสำคัญ แม่เหล็กถาวร เครนขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์หน้าท่า เหล็กและอะลูมิเนียม หน้ากาก และถุงมือยางชนิดที่ใช้ทางการแพทย์ โดยในปี 66 สหรัฐฯ นำเข้าสินค้าในรายการข้างต้นรวมมูลค่าทั้งหมด 168.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ นำเข้าจากจีนมูลค่า 18.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 11.2% ขณะที่นำเข้าจากไทยมูลค่า 7.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 4.3% สำหรับสินค้าที่สหรัฐฯ นำเข้าจากไทยที่มีมูลค่าการนำเข้าสูง มี 4 รายการสินค้า ได้แก่ โซลาร์เซลล์ เซมิคอนดักเตอร์ เหล็กและอะลูมิเนียม และถุงมือยาง คาดเซมิคอนดักเตอร์ เหล็กและอะลูมิเนียม และถุงมือยางไทยได้ประโยชน์
โดยสนค. คาดว่าสงครามการค้ารอบใหม่ จะยังส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจการค้าโลกในภาพรวม อีกทั้งจะต้องติดตามการดำเนินการของจีนที่อาจตอบโต้สหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ไม่น่าจะมีผลกระทบที่รุนแรงนักเมื่อเทียบกับสงครามการค้าที่เกิดขึ้นในปี 61 ที่ส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวและมูลค่าการค้าโลกหดตัวอย่างชัดเจนในปี 62 (GDP ไทย ปี 62 ชะลอตัวเหลือ 2.1% จาก 4.2% ทั้งในปี 60 และปี 61 และการส่งออกไทยปี 62 หดตัว 2.6% จากขยายตัว 9.9% และ 6.9% ในปี 60-61) ทั้งนี้ สินค้าที่ไทยอาจได้อานิสงส์ในการส่งออกทดแทนสินค้าจีนในตลาดสหรัฐฯ ได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์ เหล็กและอะลูมิเนียม และถุงมือยาง นอกจากนี้ คาดว่าไม่น่าจะมีผลต่อรถยนต์ไฟฟ้าของไทย เพราะกลุ่มลูกค้าของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทยอยู่ในอาเซียนและโอเชียเนีย ขณะที่ยังต้องติดตามมาตรการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมหรือสินค้าที่สหรัฐฯ จับตา อย่างเช่น โซลาร์เซลล์ ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ จะเฝ้าระวังการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นและกำลังการผลิตส่วนเกินจากประเทศในอาเซียน
กระนั้น ความเสี่ยงและปัจจัยต่างๆ ที่ไทยจะต้องเตรียมรับทั้งก่อนและหลังได้ประธานาธิดีสหรัฐคฯคนใหม่นั้น เป็นสิ่งที่ต้องลุ้นด้วยใจระทึก