เสือตัวที่ 6
การต่อสู้ระหว่างรัฐกับกลุ่มคนในขบวนการแบ่งแยกการปกครองจากรัฐในสมรภูมิชายแดนภาคใต้ของรัฐที่ต่อเนื่องยาวนานจวบจนทุกวันนี้ มีพัฒนาการการต่อสู้ตลอดห้วงเวลาที่ผ่านไปอย่างเห็นได้ชัด หากแต่ฝ่ายขบวนการต่อต้านรัฐยังคงดำรงความมุ่งหมายเพื่อการเป็นอิสระในการปกครองดูแลกันเองของคนในพื้นที่แห่งนี้โดยอ้างถึงความเป็นดินแดนที่เป็นเอกราชของคนในพื้นที่แห่งนี้ในอดีตและใช้ประเด็นนี้เป็นประเด็นหลักประการหนึ่งในการปลุกระดมให้คนในพื้นที่รุ่นแล้วรุ่นเล่ายังคงสืบต่อความคิดความเห็นอันแปลกแยกแตกต่างจากรัฐอย่างเข้มข้นต่อไปทั้งยังขยายวงกว้างออกไปอย่างน่าสะพรึงกลัว ด้วยความคิดเห็นในเชิงประวัติศาสตร์และชาติพันธุ์เหล่านั้นจะนำมาซึ่งพละกำลังในการต่อต้านอุมการณ์ของรัฐไทยนั่นคือความเป็นอาณาจักรไทยแบบรัฐเดียวโดยจะแบ่งแยกมิได้ หากแต่ความคิดความเห็นในการสะสมบ่มเพาะและดำรงอยู่อย่างเข้มข้นของคนในพื้นที่แห่งนี้ที่ขับเคลื่อนโดยฝ่ายขบวนการแบ่งแยกการปกครองจากรัฐนั้นสามารถดำเนินการได้เป็นผลสำเร็จได้มากกว่าฝ่ายรัฐอย่างชัดเจน
โดยตัวชี้วัดสำคัญคือ กลุ่มคนเกือบทั้งหมดในพื้นที่แห่งนี้ ตั้งแต่วัยเด็ก เยาวชนในสถานศึกษาทุกระดับตั้งแต่ระดับเด็กสุดไปจนถึงระดับอุดมศึกษา ตลอดจนวัยผู้ใหญ่ทุกเพศทุกวัยในชุมชน ล้วนมีความคิดที่ฝักใฝ่ไปทางฝ่ายขบวนการต่อต้านรัฐ โดยพิจารณาจากการก่อเหตุร้ายในพื้นที่ที่ไม่ได้รับความร่วมมือจากคนในพื้นที่เท่าที่ควร ทำให้การก่อเหตุร้ายทุกครั้ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายการข่าวของรัฐมิอาจล่วงรู้ได้เลยแม้แต่น้อย ทั้งเมื่อก่อเหตุร้ายแล้ว ยังสามารถหลบหนีการไล่ล่าจับกุมของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของรัฐไปได้อย่างลอยนวลทุกครั้งโดยได้รับการสนับสนุนการหลบหนีการจับกุมจากคนในพื้นที่ได้อย่างแนบเนียนยิ่ง นอกจากนั้น ในกลุ่มเยาวชนในพื้นที่แห่งนี้ ยังมีการรวมตัวจัดกิจกรรมแสดงออกที่ส่อไปในทางต่อต้านรัฐ ผ่านกิจกรรมสานต่อวัฒนธรรมประจำถิ่นของตนที่แทรกปนไปกับการปลุกระดมการรวมพลังต่อสู้กับรัฐที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า โดยที่รัฐไม่อาจเข้าไปแทรกแซงหรือยับยั้งการจัดกิจกรรมอันหมิ่นแหม่ต่อความมั่นคงของชาติได้เลยแม้แต่น้อย
เหล่านั้นคือการต่อสู้ทางความคิดที่ฝ่ายแบ่งแยกการปกครองจากรัฐเป็นฝ่ายบรรลุผลโดยนับวันเด็กและเยาวชนเกือบทั้งหมดออกห่างทางความเห็นร่วมกับรัฐมากขึ้นทุกที นับเป็นการต่อสู้ทางความคิดที่ฝ่ายขบวนการร้ายแห่งนี้ทำได้เหนือกว่าฝ่ายรัฐอย่างเห็นได้ชัด เพราะนอกจากกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่อย่างเด็กและเยาวชนในพื้นที่จะสานต่อความคิดอุดมการณ์รัฐเอกราชที่เป็นแบบดั้งเดิมของพวกเขาอย่างเข้มข้นแล้ว ขบวนการต่อต้านรัฐแห่งนี้ ยังสามารถขยายผลส่งต่อแนวความคิดในลักษณะนี้ไปยังกลุ่มคนระดับนำของประเทศ ตลอดจนนักวิชาการระดับชาติให้เห็นฟ้องและสนับสนุนการให้อิสระ เสรีในการเลือกที่จะอยู่กับใคร เลือกที่จะปกครองแบบไหน โดยอ้างสิทธิเสรีภาพตามหลักสากลประชาธิปไตยเพื่อสนับสนุนการต่อสู้ทางความคิดอุดมการณ์ในการแบ่งแยกการปกครองจากรัฐของขบวนการร้ายแห่งนี้
ในขณะที่การขับเคลื่อนการต่อสู้ทางความคิดกับรัฐยังดำเนินผ่านเวทีการเจรจาสันติภาพที่กำลังเดินหน้าไปบนเส้นทางข้อตกลงร่วมเพื่อสร้างสันติภาพแบบองค์รวม (JCPP) ที่มีหลัก 3 ประการ กล่าวคือ 1. ลดความรุนแรงในพื้นที่ 2. จัดให้มีเวทีปรึกษาหารือกับประชาชน และ 3. การแสวงหาทางออกทางการเมือง นั้น ดูจะเป็นประโยชน์ในการต่อสู้ของขบวนการร้ายแห่งนี้แต่เพียงฝ่ายเดียว อาทิ เงื่อนไขให้รัฐต้องทำ 4 ไม่กล่าวคือ ไม่ปิดล้อม ไม่ตรวจดีเอ็นเอ ไม่จับกุม ไม่ติดประกาศหมายจับและรัฐต้องทำ 3 ลด คือ ลดลาดตระเวน ลดจุดตรวจ ลดพื้นที่ พ.ร.ก. และรัฐต้องทำ 4 ยอม กล่าวคือ ยอมให้บีอาร์เอ็นเปิดเผยตัวโดยไม่มีการจับกุม ยอมให้เข้าเมืองได้ ยอมให้จัดเวทีประชุมระดมความเห็นเพื่อแสวงหาทางออกทางการเมืองและรับฟังความเห็นสาธารณะ ตามแผน JCPP ทั้งรัฐต้องให้การคุ้มครองคุ้มกันคนเหล่านี้ไม่ให้เกิดอันตรายขณะเข้ามาจัดกิจกรรมด้วย รวมทั้งรัฐต้องยอมปล่อยนักโทษคดีความมั่นคง และปลดหมายจับ เป็นต้น นับเป็นการต่อสู้ทางความคิดอุดมการณ์ที่ฝ่ายขบวนการต่อต้านรัฐเป็นฝ่ายเหนือกว่ารัฐอย่างเห็นได้ชัดบ่งบอกได้ว่า รัฐที่ไม่อาจต่อสู้ทางความคิดต่อต้านรัฐของขบวนการร้ายแห่งนี้ที่มีความเข้มแข็งเกินกว่าที่รัฐจะเอาชนะได้โดยง่าย การที่รัฐหวังอย่างเลื่อนลอยมาตลอดที่ว่าปล่อยให้คนวัยผู้ใหญ่ล้มหายตายจากไปหมดแล้ว เด็กรุ่นใหม่ก็จะไม่มีแนวคิดอันเป็นปรปักษ์กับรัฐอีกต่อไปเอง จึงไม่เกิดขึ้นจริงเพราะแกนนำสร้างมวลชนของขบวนการยังคงสานต่อสืบทอดความคิดอุดมการณ์รัฐอิสระให้กับเด็กและเยาวชนในพื้นที่ได้อย่างต่อเนื่องโดยดูได้จากคนรุ่นใหม่มีการจัดกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมที่หมิ่นเหม่ต่อความมั่นคงเป็นปีกแผ่นของชาติตลอดมา
ในขณะเดียวกัน ขบวนการต่อต้านรัฐเพื่ออิสรภาพในการปกครองกันเองของพวกเขา ก็ยังคงใช้การต่อสู้ด้วยอาวุธกับรัฐอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการต่อสู้ทางความคิดอุดมการณ์ของพวกเขายังคงทรงพลังอยู่ต่อไป การก่อเหตุร้ายหลายครั้งนั้นกองกำลังติดอาวุธมักใช้เครื่องทุ่นแรงในการต่อสู้โดยใช้วิธีการลอบวางระเบิดทำลายล้างเป้าหมายเป็นส่วนใหญ่ น้อยครั้งที่กองกำลังติดอาวุธจะโจมตีเป้าหมายด้วยการใช้กำลังกองโจรติดอาวุธ การก่อเหตุระเบิดรถยนต์บริเวณอาคารที่พักของข้าราชการตำรวจและครอบครัวในพื้นที่ สภ.บันนังสตา จังหวัดยะลา ส่งผลให้ผู้บริสุทธิ์ต้องเสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บจำนวนมากรวมทั้งการลอบวางระเบิดรถกระบะสายตรวจ สภ.เทพา จังหวัดสงขลาหน้าโรงไฟฟ้าชีวมวล ขณะกลับจากการตราจความเรียบร้อยในพื้นที่ ส่งผลให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4นาย นอกจากนี้ยังพบระเบิดลูกที่ 2 วางดักเอาไว้เพื่อหวังสังหารเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเหล่านี้จึงชี้ให้เห็นว่า กลยุทธ์การต่อสู้ของขบวนการแบ่งแยกการปกครองจากรัฐ ใช้การต่อสู้ทางความคิดอุดมการณ์เพื่อการเป็นเอกราชของรัฐปาตานี ควบคู่กับการต่อสู้ด้วยอาวุธที่ใช้วิธีการลอบวางระเบิดเป็นหลักอย่างชาญฉลาดยิ่ง ซึ่งนั่นคือ กลยุทธ์การต่อสู้ทางความคิดและการต่อสู้กับสงครามระเบิดทำลายที่รัฐจะต้องตระหนักรู้และวางน้ำหนักให้ชัดเจนว่าจะต่อสู้อย่างไรให้ได้ชัยชนะในสมรภูมิแห่งนี้