หากเช็คความได้เปรียบทางการเมือง สำหรับ “พรรคเพื่อไทย” ในเวลานี้ มีความเป็นไปได้สูงว่าอาจไม่มีอะไรที่ “เหมือนเดิม” อีกต่อไป แม้สถานะของเพื่อ่ไทย จะเป็น “พรรคแกนนำรัฐบาล” แต่กลับกลายเป็นว่า เก้าอี้ “นายกฯ” ซึ่งเป็นโควตาของพรรค กำลังถูกจับตาและพร้อมที่จะมีการ “ช่วงชิง” ในอีกไม่ช้า!

ศาลรัฐธรรมนูญนัดหมาย ฟังคำวินิจฉัยคดี “40 สว.” วุฒิสมาชิกชุดเก่ายื่นคำร้องให้พิจารณาความเป็นรัฐมนตรีของ “เศรษฐา ทวีสิน”นายกฯ สิ้นสุดลงเป็นการเฉพาะตัวหรือไม่จากกรณีทำผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรี ทั้งที่รู้ และควรรู้ว่า พิชิต ขาดคุณสมบัติ ในวันที่ 14 สิงหาคมนี้

แต่กลับกลายเป็นว่า กระแสการเปลี่ยนตัวนายกฯ กระแส “นายกฯสำรอง” สะพัดไม่มีหยุดหย่อน ทั้งที่เศรษฐา ยังนั่งบริหารราชการอยู่ที่ตึกไทยคู่ฟ้า และทำให้เขาเองถูกสื่อกดดัน แทบทุกวันนี้ว่า “หวั่นไหวหรือไม่” ทั้งต่อความหวังที่จะรอดจากคดีถอดถอนในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ รวมถึงกระแส ว่าด้วยนายกฯคนใหม่ ที่มีหลายคน พร้อมจะขึ้นมาแทนที่

แน่นอนว่าสำหรับเศรษฐา แล้วตัวเขาเองอยู่ในท่ามกลาง “แรงกดดัน” มาตั้งแต่แรกเริ่ม นับตั้งแต่วันที่ “152สว.” ยกมือโหวตให้เขาได้เป็นนายกฯ คนที่ 30 ซึ่งว่ากันว่า สว.กลุ่มดังกล่าวได้ “ใบสั่ง” มาจาก “อำนาจเก่า” เปิดทางให้คนของพรรคเพื่อไทยได้เก้าอี้นายกฯไป แทนที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” แคนดิเดตจากพรรคก้าวไกล

จนมาถึงวันที่ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯคนที่ 23 ปรากฏตัวขึ้นทั้งที่บ้านจันทร์ส่องหล้า และที่พรรคเพื่อไทย เศรษฐาก็ตกอยู่ในห้วงคำถามที่ว่าด้วยวลี “นายกฯเมืองไทยมีกี่คน?” 

อย่างไรก็ เก้าอี้นายกฯ ที่แม้วันนี้จะยังอยู่ในมือของพรรคเพื่อไทย แต่หากวันที่ 14 สิงหาคมนี้ ผลในทางคดีออกมาในทางที่เป็น “ลบ” โอกาสจะเปิดให้กับ “แคนดิเดตนายกฯ” ที่มีชื่ออยู่ในบัญชี ซึ่งมีทั้ง “อนุทิน ชาญวีรกูล” จากพรรคภูมิใจไทย และ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่แม้ทั้งคู่ยัง “สงวนท่าที” แต่ไม่ได้หมายความว่า จะโยนผ้าหรือยอมถอย

สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทย เวลานี้ เมื่อถูกนำไปเชื่อมโยงกับ “บารมี” ของ ทักษิณ ในวันที่เขาเองยังมีคดีในความผิด มาตรา 112 เป็นชนักติดหลังอยู่ ยิ่งทำให้ถดถอยและยังทำให้ทั้งฝ่ายตรงข้าม ไปจนถึง พรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง พร้อมที่จะ “วัดพลัง”

ท่าทีและความหวั่นไหว ได้ถูกสะท้อนผ่าน “วิสุทธิ์ ไชยณรุณ” ประธานวิปรัฐบาล และ แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่แสดงความมั่นใจว่านายกฯเศรษฐา รอดคดีแน่นอน และการที่ศาลไม่อนุญาต ให้ทักษิณออกนอกประเทศตามที่ร้องขอ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก วันนี้พรรคเพื่อไทยยังมีกำลังใจดีกันทุกคน และเหนืออื่นใดไปกว่านั้น เก้าอี้นายกฯ จะต้องเป็นของพรรคเพื่อไทยเหมือนเดิม

อำนาจต่อรองที่มีอยู่ในมือทักษิณ และพรรคเพื่อไทยเวลานี้กำลังถูกท้าทายและถูกทดสอบ ด้วยคดีถอดถอนเศรษฐา ไปพร้อมๆกับ คดีที่ทักษิณกำลังเผชิญ ที่มีความเปราะบาง อย่างมาตรา 112 !