ปัญหาการหลอกลวงออนไลน์ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมไปทั่วโลก
สะท้อนได้จากภาพยนตร์ฮอลลีวูด ประเภทแอคชั่นที่พล็อตเรื่องส่วนใหญ่ผู้ร้ายมักจะเป็นมาเฟียหรือแก๊งยาเสพติด ลักพาตัว แต่ล่าสุดมีผู้ร้ายเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยในภาพยนตร์เรื่อง The Beekeeper ที่เป็นเรื่องราวของอดีตสายลับที่ล้างมือจากวงการมาเป็นคนเลี้ยงผึ้ง มีป้าข้างบ้านที่สนิทสนมกันเหมือนญาติผู้ใหญ่แต่แล้วเธอก็ต้องจบชีวิตลง เพราะถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงินจนหมดตัว อดีตสายลับจึงปฏิบัติการไล่ล่าแบบล้างผลาญชนิดสาวถึงตัวการใหญ่ที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล
ภาพยนตร์เรื่องนี้จะน่าเข้ากับสถานการณ์ของบ้านเรา หลังเพิ่งมีการจับกุมไฮโซรายหนึ่งที่เป็นหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ระดับสั่งการ เขียนสคลิปต์โดยมีนายทุนต่างชาติหนุนหลัง และกรณีจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนพัวพันกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์
น่าสนใจตรงปฏิกิริยาของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่เอาจริงเอาจังเรื่องการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์นำไปสู่ความร่วมมือระหว่างไทยกับกัมพูชา สืบเนื่องจากการเดินทางไปที่อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย และได้มีการสั่งการให้ตัดสัญญาณโทรศัพท์ ตามแนวชายแดน ต่อมาจึงได้พูดคุยกับนายฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แบละนำไปสู่การหารือร่วมกันระหว่างพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ซอ เทต ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกัมพูชา
โดยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งบริบทของทั้งสองประเทศที่เปลี่ยนไปจากภัยคุกคามของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ในประเทศกัมพูชาที่เชื่อว่าจะเป็นจุดที่มีการตั้งสถานที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ข้อมูลเกี่ยวกับชาวต่างชาติที่มีพฤติการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อให้ตำรวจกัมพูชาได้ร่วมสืบสวนและปฏิบัติการร่วมกันในอนาคต ซึ่งทางกัมพูชายินดีที่จะร่วมมือด้วย
ยังมีข้อมูลผู้กระทำความผิดในไทยที่ไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ประเทศกัมพูชา และใช้เป็นฐานในการหลอกลวงคนไทย จึงได้ขอความร่วมมือทางกัมพูชาในการส่งตัวคนไทยที่มีหมายจับเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์กว่า 100 คนมาดำเนินการตามกฎหมายของประเทศไทยให้ได้ และหลังจากนี้จะมีการตั้งคณะทำงานย่อยร่วมกันระหว่างทั้งสองประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล วิธีปฏิบัติการร่วมกันทั้งการสืบสวน ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยจะเดินทางการประชุมหารือเพื่อกำหนดทิศทางและ วางแผนการปฏิบัติการร่วมกัน โดยเน้นเรื่องเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นหลัก
ถือว่าเป็นความคืบหน้าในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเชิงรุก ที่หากทำอย่างจริงจังและเห็นผลเป็นรูปธรรมมากขึ้น ก็จะแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้กับพี่น้องประชาชนได้บรรเทาเบาบางลง แก้ปัญหาเศรษฐกิจ และสังคม ประชาชนก็จะแซ่ซ้องสรรเสริญ