บรรยากาศที่ เขาใหญ่ ดูจะคึกคักเป็นพิเศษ เมื่อการเมืองไม่เงียบเหงา  แต่กลับตรงกันข้าม เพราะแรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ท แอนด์ คันทรีคลับ เขาใหญ่ รีสอร์ทหรู ของ เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย  ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กลายเป็นที่พบปะสังสรรค์ของ บรรดา เซียนการเมือง โดยเฉพาะ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ร่วมอยู่ในทุกเฟรม ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม 


 ภาพการรวมตัวของแกนนำในรัฐบาล ที่ห้อมล้อมทักษิณ ที่รีสอร์ทหรู ทั้ง เสี่ยหนู เจ้าของรีอสอร์ตและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา  สมพงษ์ อมรวิวัฒน์  แกนนำพรรคเพื่อไทย รวมทั้ง  อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย  ประเสริฐ จันทรรวงทอง  รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล   รมว.วัฒนธรรม 


 งานนี้ยังนักธุรกิจใหญ่ ระดับประเทศ อย่าง สารัชถ์ รัตนาวะดี   ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัทผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ของไทย ร่วมออกรอบตีกอล์ฟ  กับทักษิณ และแกนนำในรัฐบาล  อีกด้วย 


 เมื่อปรากฏภาพดังกล่าวสู่สาธารณชน  ผ่านสื่อเช่นนี้ทำให้ถูกจับตาว่านี่คือนัดกระชับมิตร ข้ามพรรคเพราะมีทั้งหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย คืออนุทิน ซึ่งเขาเคยบอกกับสื่อเสมอว่า สำหรับอดีตนายกฯทักษิณ คือ เจ้านายเก่า ที่ยังรักและเคารพเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังมีสุวัจน์ จากพรรคชาติพัฒนา ที่เคยพบปะกันมาแล้วหลายครั้ง ที่ผ่านมาทั้งที่โคราช และที่ภูเก็ต เมื่อคราวทักษิณ ยกคณะลงไปลงพื้นที่ ที่ผ่านมา 


 ก่อนหน้านี้ พรรคพลังประชารัฐ เพิ่งเป็นเจ้าภาพนัดเลี้ยงแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลไปแล้ว เมื่อวันที่ 15 ก.ค.67 ที่ บ้านปาร์คนายเลิศ โดยงานนั้นมี เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ร่วมด้วย แต่ยังคงไร้เงา บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เช่นเดิม

 
  เมื่อการนัดพบปะกันของทักษิณ กับก๊วนกอล์ฟ ที่รีสอร์ตหรู เมื่อช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถูกตีความว่า นอกเหนือไปจากการพบกันของบรรดาคีย์แมน พรรคร่วมรัฐบาล นอกสถานที่ จะเป็นการตอกย้ำ ความสัมพันธ์ ที่แนบแน่น ระหว่าง ทักษิณ กับ อนุทิน เป็นการเฉพาะหรือไม่ ?


 เพราะอย่าลืมว่า หลังดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลผ่านพ้นไป ปรากฏว่าเกิดศึกกัญชา ระหว่าง พรรคเพื่อไทย กับ พรรคภูมิใจไทย ตามมาติดๆ   จากกรณีการดึงกัญชากลับเข้าสู่บัญชี ยาเสพติด ซึ่งอนุทิน ส่งสัญญาณชัดเจนไปยังนายกฯเศรษฐา แล้วว่าในนามของรมว.มหาดไทย ซึ่งต้องเข้าไปลงมติในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) คงสงวนท่าที และโหวตไม่เห็นด้วย


 นอกจากนี้อนุทิน ยังบอกชัดเจนว่าเขาคงไม่คุยกับ สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข เพราะไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้ง  นอกจากนี้ ลูกพรรคภูมิใจไทย ยังดาหน้าออกมาแสดงจุดยืนค้านการดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด 


 ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งการพบกันระหว่าง ทักษิณ กับอนุทิน ยังถูกมองว่า นี่คือสัญญาณการเมืองใหม่ หรือไม่ ที่อาจนอกเหนือไปจากการกระชับมิตรพรรคร่วมรัฐบาลกันแล้ว ยังเหมือนเป็นการ รื้อฟื้น ความสัมพันธ์ คนคุ้นเคย ในห้วงสถานการณ์ทางการเมืองที่ พรรคภูมิใจไทย อยู่ในสถานะที่มีอำนาจต่อรองไม่น้อยด้วยหรือไม่ ?