เมื่อ ข่าวร้าย กำลังมาเยือน ความหวั่นไหวที่ พรรคก้าวไกล จึงเริ่มก่อตัวขึ้น หลังจากที่ ศาลรัฐธรรมนูญ นัดชี้ชะตา ในวันที่ 7 สิงหาคม 67 นี้ !
ศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งวันนัดฟังคำวินิจฉัย คดียุบพรรคก้าวไกล ในช่วงต้นเดือนหน้า จากกรณีที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งแก่ คณะกรรมการบริหารพรรค และห้ามมิให้ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารพรรคและถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ภายในกำหนด 10 ปี
นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 92 วรรคสอง และมาตรา 94 วรรคสอง เนื่องจากมีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
หมายความว่า จากนี้ไป พรรคก้าวไกล อาจต้องเตรียม นับถอยหลัง ว่าพรรคจะอยู่หรือไป เร็วขึ้นกว่าที่คาดคิด เพราะเดิม ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เพิ่งแถลงไปก่อนหน้าเพียง1 วัน ยังหวังว่าศาลรัฐธรรมนูญจะเปิดไต่สวน เนื่องจากคดีนี้มีโทษรุนแรงเหมือนกับการ ประหารชีวิต พรรคการเมือง ดังนั้นจึงควรมีการไต่สวนข้อเท็จจริง ให้มีการโต้แย้งในข้อกฎหมาย อย่างเต็มที่และรอบด้าน เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
แต่ปรากฏว่า ในเอกสารข่าวที่ศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่ต่อสื่อ ระบุว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐาน เพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของ ศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง
เท่ากับว่าคดีนี้ปิดการไต่สวน ทำให้ ร่นเวลาที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะนัดลงมติเข้ามาเป็นวันที่ 7 สิงหาคม เวลา 15.00 น. ขณะที่ข่าวร้ายกำลังมาเยือน พรรคก้าวไกล แต่ไม่ได้หมายความว่าสำหรับ คู่แข่ง อย่าง พรรคเพื่อไทย แล้ว จะไม่ได้รับผลกระทบในทางการเมืองตามมา
เพราะได้เคยมีการประเมินกันเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าหากพรรคก้าวไกล ถูก ยุบ จริง ไม่ได้หมายความว่า คะแนนนิยม จะสวิงเทกลับมาให้พรรคเพื่อไทย อยู่ดี เนื่องจากบริบทการเมืองได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วอย่างสิ้นเชิง
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา การมีพรรคอนาคตใหม่ จนมาถึงพรรคก้าวไกลทำให้ผู้คนในสังคมเกิดการเปรียบเทียบเหมือนกับว่าพวกเขามี ทางเลือกใหม่ ทั้งในแง่ อุดมการณ์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพ ผู้นำ ในโลกยุคใหม่ที่ว่ากันว่า แม้แต่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยังถูกเปรียบเทียบ จนเสียรังวัดไปหลายขุม
สำหรับหลายคนในพรรคเพื่อไทยแล้ว แม้การมี พรรคก้าวไกลอยู่ในสารบบการเมืองไทยอาจทำให้พรรคได้รับผลกระทบไม่น้อย แต่หากให้ต้องเลือกกันแล้ว ย่อมดีกว่าการที่ ก้าวไกลถูกยุบพรรค เพราะคะแนนนิยมของก้าวไกล มีแนวโน้มจะยิ่งทวีมากขึ้น เมื่อ สมาชิกพรรคที่รอดชีวิตจากการถูกประหารทางการเมือง ไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ !