เรื่องร้อนที่ออกมาจากปาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์สื่อบางสำนัก ยืนยันว่าได้เข้าเยี่ยม ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระหว่างรับการรักษาตัว บนชั้น 14 ที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งทักษิณ มีสติสมบูรณ์ ไม่ได้ป่วยหนัก ติดเตียง แต่อย่างใด
แน่นอนว่าการให้สัมภาษณ์ของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมตามมา โดยเฉพาะฟากฝั่งที่ประกาศมาตั้งแต่ต้นด้วยเชื่อว่า ทักษิณ ป่วยทิพย์ ไม่ได้ป่วยจริง พร้อมทั้งตั้งคำถามมาโดยตลอดว่าเขาเป็นนักโทษที่สมควรได้รับการพักโทษ หรือแท้จริงแล้วเขาไม่เคยต้องรับโทษเลยต่างหาก
แต่ปมประเด็นเรื่องทักษิณ ป่วยทิพย์ ที่ได้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยืนยันกับสื่อต่อสาธารณะ เช่นนี้ ดูเหมือนหลายคนน่าจะประเมินได้ว่า ที่สุดแล้วเรื่องนี้จะกลายเป็น คลื่นกระทบฝั่ง เกิดขึ้นแล้วเงียบหายไป
ประเด็นที่ว่าด้วยอาการป่วยทิพย์ของอดีตนายกฯทักษิณ ไม่ใช่เรื่องใหม่ และแม้จะมีหลักฐานจาก พยานบุคคล อย่างพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็ยากที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างใด อย่างหนึ่งตามมาได้จริงเมื่อเรื่องที่เกิดขึ้น นับจากวันที่ทักษิณประกาศว่าเขาจะกลับประเทศไทย นั้นไม่ใช่เรื่อง บังเอิญ แต่เป็นหนึ่งในเงื่อนไขของการทำ ดีลลับ
และเมื่อวันนี้ แม้โดยภาพรวมจะสะท้อนว่าทักษิณท้าทายกระบวนการยุติธรรมไทย มาโดยตลอด ทั้งการติดคุกทิพย์ การป่วยทิพย์ มาถึงณ เวลานี้ที่ได้รับการพักโทษ และที่จะเกิดขึ้นในเดือนส.ค. เมื่อทักษิณ พ้นโทษอย่างเป็นทางการ แต่ก็เป็นเรื่องที่ทักษิณ น่าจะ ได้ ไปส่วนเดียว
อย่าลืมว่า ภารกิจในการกลับประเทศไทยของทักษิณ ในรอบ17 ปีนี้ คือการฟื้นฟู พรรคเพื่อไทย ให้กลับมายิ่งใหญ่ ได้อีกครั้งในสนามการเมืองทุกระดับ !
แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้น กำลังชี้ว่า พรรคเพื่อไทยวันนี้ยังไม่เจอ ทางชนะ อย่างแท้จริง เพราะห้วงเวลา 9 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาล โดยเฉพาะ เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรัฐมนตรี ยังไม่สามารถ แก้ปัญหา ปากท้องให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างจริงจัง ยิ่งนานวัน กระแสเรียกร้อง ลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งบัดนี้อยู่ในสถานะองคมนตรี ผุดขึ้นในทุกๆวัน โดยเฉพาะการที่รัฐบาลเพื่อไทย ถูกไปเปรียบเทียบ กับรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ ว่าพี่น้องประชาชนยังไม่ยากลำบากกันขนาดนี้
นอกจากนี้ ในทุกสนามการแข่งขัน พรรคเพื่อไทย ยังพ่ายแพ้ และยังเป็นการตอกย้ำว่า กระแส ทักษิณ นั้นเข้าขั้น ถดถอย ทั้งการเลือก สว. 200 คน พรรคเพื่อไทยพ่ายแพ้ให้กับพรรคภูมิใจไทย ส่วนการเลือกตั้งนายกอบจ.ปทุมธานี ถึง ชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครของพรรคจะชนะเลือกตั้ง แต่เจ้าตัวกลับติดปัญหาคดีเก่ากรณีทุจริตการซื้อถุงยังชีพ ซึ่งต้องรอวัดใจ กกต.กลาง จะประกาศรับรองให้หรือไม่ มิหนำซ้ำการเลือกตั้งนายกอบจ.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทยยังชนะคู่แข่ง ไม่ถึงสองพันคะแนน
สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทย นับตั้งแต่วันที่ทักษิณ กลับมายังอยู่ในสภาพที่เรียกว่าเป็นหุ้นที่ยังไม่สามารถผงกหัวไต่ระดับขึ้นมาได้ และจากนี้ยังจะถูกจับตากันต่อไปว่า นายกฯเศรษฐา จะรอดจากคดีถอดถอน โดยศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะนาทีนี้หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับเศรษฐา จริง พรรคเพื่อไทย ก็ยังไม่มี ผู้เล่น ที่จะสามารถรักษาเก้าอี้นายกฯ เอาไว้ได้ !