ภารกิจในมือ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 23  ยังรออยู่อีกหลายเรื่อง ทั้งเรื่องของครอบครัว ชินวัตร เอง ควบคู่ไปกับการกลับมาทวงคืนพื้นที่ และอำนาจทางการเมืองให้กับ พรรคเพื่อไทย ทั้งในสนามใหญ่ ไปจนถึง สนามเล็ก การเมืองระดับท้องถิ่น 


 การเลือกสว. ชุดใหม่ ตามรัฐธรรมนูญ 2560 เพื่อให้ได้ 200 สว. ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่ามีการฮั้วลงคะแนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระแสข่าวว่ามีการ ล็อคเก้าอี้ ในส่วนของ ประมุขสภาสูง เอาไว้ให้กับ สมชาย วงศ์สวัสดิ์  ผู้สมัครที่ผ่านจังหวัดมาแล้ว รอเข้าไปนั่งสว.คนใหม่  แต่ดูเหมือนว่า ประเด็นเหล่านี้ เป็นเรื่องที่เกินไปกว่า พรรคเพื่อไทยมองข้ามช็อตไปเรียบร้อยแล้ว 


 การล็อคเก้าอี้ในสภาสูง สำหรับพรรคเพื่อไทยคือเป้าหมายใหญ่ทางการเมืองเช่นเดียวกับ พรรคก้าวไกล เองที่ประเมินแล้วว่า แม้พรรคก้าวไกลจะถูกยุบพรรค แต่หากมีคนของพรรคหรือเป็น แนวร่วม ทางการเมือง ได้เข้าไปอยู่ในสภาสูง 


 เพราะโอกาสที่จะได้ ทำงานใหญ่ คือการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ  หรือการเข้าไปมีส่วนสำคัญในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือสาระสำคัญ ที่ทั้งพรรคเพื่อไทยและก้าวไกล ต่างเพ่งมองและต้องหาทาง ยึดสภาสูง ให้ได้


 เพราะแม้อำนาจหน้าที่ของสว.ชุดใหม่ 200คนจะไม่สามารถ โหวตนายกฯ ได้เหมือนที่ผ่านมา จนทำให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่อาจ ฝ่าด่าน การโหวตนายกฯ คนที่ 30 ไปได้ แม้พรรคก้าวไกลจะได้เสียงข้างมากและมีโอกาสลุ้นเก้าอี้นายกฯ มาเป็นอันดับหนึ่งก็ตาม 


 ดังนั้นหมายความว่าวันนี้เกมการเมืองได้เดินไกลไปข้างหน้าแล้วสำหรับพรรคเพื่อไทย ที่มีอดีตนายกฯทักษิณ เป็นกำลังหลัก ทั้งนี้ยังมีโอกาสเข้าใกล้ความเป็นจริงเหนือพรรคก้าวไกล ที่ยังต้องลุ้นชะตากรรมจาก คดียุบพรรค 


 การเมืองสนามเล็ก ระดับท้องถิ่นที่ทยอยเปิดศึกเลือกตั้ง อย่างนายกอบจ.ในบางจังหวัด คือหนึ่งในสนามการเมืองที่ทักษิณ มีลุ้นที่จะใช้เป็นตัวชี้วัดกำลังในเบื้องต้น โดยเฉพาะการเลือกตั้งนายกอบจ.ปทุมธานี คือหนึ่งในสัญญาณการเมืองที่เพิ่งเริ่มต้นสะท้อน ความนิยม ของอดีตนายกฯทักษิณ  หลังจากที่ได้ลุ้นผลการเลือกสว.ทั่วประเทศในวันที่ 26 มิ.ย.67 นี้