สถาพร ศรีสัจจัง
ที่มาของหัวข้อเชิงคำถามที่ว่า “ฤาโลกจะล้มละลาย” มาจากการได้อ่าน “สักวา” บทหนึ่ง!
“สักวา” นั้นเป็นรูปแบบของ “บทกวี” หรือ “เพลง” ที่เป็น “การละเล่นพื้นเมือง” ในฤดูน้ำหลากชนิดหนึ่งของกลุ่มคนไทยภาคกลางยุคก่อน มักจะเล่นเป็นทำนอง “เพลงปฏิพากย์” ใช้ร้องโต้ตอบกันระหว่างหนุ่มสาวในเรือ คล้ายเป็นเพลงเรือชนิดหนึ่ง สะท้อนความเป็นคน “เจ้าบทเจ้ากลอน” ของคนไทยยุคก่อน (ฟังมาว่าช่วงยุคอยุธยาตอนปลายและรัตนโกสินทร์ตอนต้น) ได้เป็นอย่างดี
แต่ยุคปัจจุบันที่สังคมไทยกลายเป็น “สังคมรากขาด” (ทางวัฒนธรรม) ไปเรียบร้อยแล้ว คงมีน้อยคนที่จะรู้จักว่า “สักวา” หรือ “บทสักวา” (ที่มักถูกกล่าวถึงคู่กับ “บทดอกสร้อย”) คืออะไร!
จะขอยก “บทสักวา” ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเรื่องบทความนี้มาให้ดูกันสักหน่อยก็แล้วกัน… เขาว่าไว้ดังนี้:
“ ๐ สักวาอ้างว้างกลางโลกเดือด
เห็น “กิเลส” ดื่มเลือดอยู่แดงฉาน!
“ชนชั้นนำ” ต่ำช้าและสามานย์
กลายเป็นทาส “ซาตาน” ไปทุกตัว!
คำสอนทุกศาสดา นำพามนุษย์
คล้ายสิ้นสุดลงย่อยยับกับพวกชั่ว
ชนหมู่มากถูกมอมเมาจนมืดมัว
ไม่มีใครเกรงกลัว “บาป” แล้วเอย…ฯ
ถ้าสังเกตดีๆ บทสักวาบทนี้มีคำสำคัญอยู่ 2-3 คำ (ที่คิดว่าผู้เขียนน่าจะต้องการบอกผู้อ่านหรือผู้ฟัง) คือคำว่า “ชนชั้นนำ” “ทาสซาตาน” “ชนหมู่มาก” “ถูกมอมเมา” และ คำ “บาป”
ลืมบอกเรื่องสำคัญไปเรื่องหนึ่ง คือสักวาบทนี้ “ผู้แต่ง” ตั้งชื่อว่า “บาป” (sin)!
คำ “บาป” จึงน่าจะเป็นคำสำคัญที่สุดของสักวาที่เขียน “ความรู้สึก” ถึง “โลกวันนี้” บทนี้ !
ผู้เขียน(หรือผู้ขับบทสักวา)น่าจะพยายามต้องการบอกผู้อ่าน(หรือผู้ฟัง)ว่า ต้นเหตุของ “ภาวะโลกเดือด” ที่กำลังเป็นอยู่ในปัจจุบัน ทั้งในเรื่อง “ความเดือดทางภูมิอากาศ และ ทางสังคมของมนุษยชาตินั้นล้วนเกิดจาก “บาป” ที่ “ชนชั้นนำ” ผู้เป็น “ทาสซาตาน” ของโลกปัจจุบันเป็นผู้ก่อขึ้นทั้งสิ้น!
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง อะไรคือ “บาป” ที่ผู้เขียน (หรือ “ขับ”) สักวาบทนี้พยายามบอกกันเล่า?
คำ “บาป” เป็นคำที่มักใช้เป็นภาษาเกี่ยวกับศาสนา ทุกศาสนาใหญ่ๆของโลก เช่นศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม ศาสนาพราหมณ์ ศาสนาพุทธ และอีกหลายศาสนา มีคำ “บาป” ใช้กันทั้งสิ้น
“บาป” เป็นคำนาม ทุกศาสนามักให้ความหมายที่คล้ายๆกัน หมายถึงพฤติกรรมหรือการกระทำที่ตรงข้ามกับคำสอนในศาสนานั้นๆ ศาสนิกของทุกศาสนามักเชื่อว่า ศาสนาของตนสอนให้คนทำความดี!
“ความดี” มักหมายถึง สิ่งที่ทำแล้วจะเกิดภาวะ “สร้างสรรค์” ทั้งต่อตัวเอง คนอื่น และสังคมโลกโดยรวม เป็นสิ่งที่ทำขึ้นอย่างสอดคล้องกับ “สภาวธรรม” ตรงกันข้ามกับ “ความชั่ว” ที่มักหมายถึงพฤติกรรมทึ่งทำลาย ส่งผลในแง่ลบ ทั้งต่อตัวเอง ผู้อื่น และสังคมโลกโดยรวม
ตัวแทนของ “ความชั่ว” ในศาสนาคริสต์มักหมายถึงพฤติกรรมแบบ “ซาตาน” (Satan) ส่วนในศาสนาพุทธมักหมายถึงแบบที่ “มาร” ชอบทำกัน! ฯลฯ
แม้ “ศาสนา” อาจเป็น “ผลิตภัณฑ์” หรือ “product” (ภาษาของระบบ “ทุนนิยม” ที่เป็นระบบความสัมพันธ์ทางการผลิตกระแสหลักของชาวโลกส่วนใหญ่ปัจจุบัน) ที่ฟังว่าเป็นเหมือน “หมุดหมาย” (Mile stone)สำคัญที่สุดประการหนึ่ง ที่ชี้บอกว่า “มนุษยชาติ” (Homosapiens) ได้ “ข้ามพ้น” จาก “สัญชาตญาณสัตว์” เยี่ยง “สัตว์เดรัจฉาน” ชนิดอื่นแล้ว แต่ก็กลับพบว่า ท้ายที่สุดแล้ว มนุษย์บางจำพวก (อาจเป็นพันธุ์เดียวกับที่ผู้แต่งบทสักวาระบุเรียกว่า “ชนชั้นนำ” นั่นเอง)สามารถใช้สิ่งที่เรียกว่า “ศาสนา” นี่แหละก่อ “บาป” เช่น “การฆ่าคน” อย่างรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะผ่าน “ผลิตภัณฑ์” ที่พวกเขาเรียกว่า “สงคราม”!
ตัวอย่างเช่น “สงครามครูเสด” อันโด่งดังในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาตินั่นไง!
แน่นอน ผู้ตัดสินใจเชิงนโยบายว่าจะก่อ “สงคราม” (ทุกชนิด)หรือไม่อย่างไร?ย่อมต้องเป็น “ชนชั้นนำ” (อันหมายถึงผู้กุมอำนาจทางเศรษฐกิจ-การเมือง-การศึกษา-สื่อสารมวลชน ฯลฯ ของสังคมโลก)
แล้วสิ่งที่ผู้แต่งสักวาบทนี้เรียกว่า “ชนชั้นนำ” ที่เป็นต้นเหตุแห่ง “บาป” (เพราะทำให้ “ชนหมู่มากถูกมอมเมาจนมืดมัว”) ทั้งหลายมาจากไหนกันละ? คำตอบย่อม คือ ก็มาจาก “ระบบ” ที่พวกเขาสร้างขึ้นนั่นแหละ!
แล้ว “สงคราม” ละคืออะไร? ศาสนาบอกเราว่า “สงคราม” ก็คือ “การเบียดเบียน” ทุกรูปแบบ! ทั้งเบียดเบียนชีวิตตัวเอง และ ชีวิตอื่น (และ “สิ่ง” อื่น!)
การ “เบียดเบียน” สรรพสิ่ง ที่เกิดจากการถูก “ปลุกกิเลสโลดเถลิงจนเริงร้อน” นี่แหละ ที่เรียกว่า “บาป” ซึ่งฟังว่ากำลังก่อเหตุให้เกิด “ภาวะโลกล้มละลาย” อยู่ในปัจจุบัน……
กำลังเขียนอะไรเพลินๆอยู่ดีๆนี่แหละ… ผู้แต่ง “สักวา” คนเดิมคนนั้น ก็แวบส่งกลอนบทยาวบทใหม่มาให้ทางสื่อสมัยใหม่…อ่านแล้วจึงตัดสินใจได้ว่า จะไม่เขียนบทความนี้ต่อละ…แต่จะขอเอากลอนบางตอนจากบทที่ชื่อ “สัตว์สงคราม!” ( “Imperialism” หรือ “พวกต่ำช้ากว่าสัตว์เดรัจฉาน”) ที่เขาเพิ่งส่งมาให้มาลงเป็นตอนจบแทน 5555…ดังนี้ : (อ่านเป็นวรรคตาม(/)ที่คั่นไว้)
@ เรียกว่า “สงคราม” หรือความพินาศ/เมื่อซาตานเมื่อปีศาจปราดเข้าสิง/ความเกลียดโกรธก่อพลังความชังชิง/ความดี-งาม,ทุกสิ่ง-ก็พังครืน…ฯ
@ สัญชาตญาณการ “ห้ำ” ขย้ำเหยื่อ/เข้าครอบใจไม่เหลือความเริงรื่น/ผู้บริสุทธิ์ทั้งสิ้นต้อง กินกลืน/ความขมขื่น,ความตาย-ใต้มือใด?/ระบบ “ทุนสาไถย” สอนให้ฆ่า/ เพียงเพื่อว่ากูจะได้กลายเป็นใหญ่/มีอำนาจมีความอยากมากกว่าใคร/โลกจะร้อนอย่างไรไม่นำพา/จึง “ผูกขาด” ความชั่วช้ายิ่งกว่าสัตว์/ความถนัดความชำนาญ-คือการฆ่า/นับมนุษย์เหมือนเป็น เช่น ผักปลา/จึงเต็มคราบบาปหนา-เต็มสามานย์!/มันทำลายทั้งสิ้น-มันกินโลก/มันก่อความวิปโยคทุกหย่อมย่าน/มันทำทุกสารพันที่อันธพาล/มันชั่วกว่า “ซาตาน”- “มารผจญ”!/มันกำเนิดเกิดมาเพื่อฆ่ามนุษย์/มีเป้าหมายสูงสุดคือการปล้น!/มันมีจิตวิญญาณเหมือนเครื่องยนต์/เยี่ยงจักรกล “เอ.ไอ” ไร้คุณธรรม/สั่งสมแต่สันดานเรื่องการชั่ว/ทั้งมักมากทั้งมืดมัวเป็นตัว “ห้ำ”/กระตุ้น “อยาก” ให้มากล้น เหมือนมนตร์ดำ/เข้าครอบงำใจคนจนละลาย/บริโภคไม่รู้สิ้น-กินไม่จบ/ “คน” จึงกลายเป็นศพเอาง่ายง่าย/ถูกจับมัดตราสังขึ้นตังวาย/เป็นเครื่องเซ่นวางถวายใต้ตีน “ทุน”!/เคยเรียนรู้จนพัฒนากว่า “สัตว์” อื่น/เคยรู้ “ตื่น” รู้ดีที่อบอุ่น/ “พวกนี้”กลับทำลายกลายเป็นจุณ/ยกทัพเถื่อน “ระบบทุน” เข้าโจมตี!/แรงอุทิศกี่ปราชญ์-กี่ศาสดา?/มนุษย์จึงก้าวหน้ามาถึงนี่/พบความจริง-เห็นความงาม-รู้ความดี/กระทั่งพวกกาลีเข้าทำลาย…ฯ…"
ที่จริงน่าจะขอเปลี่ยนชื่อบทความชิ้นนี้เสียใหม่น่าจะดีกว่าเนาะ ถ้าจะเปลี่ยนเป็นชื่อ “บาปทลายโลก!” ดีไหมเอ่ย?!