เมื่อศิลปินตลกเดี่ยวไมโครโฟนท่านหนึ่ง เอ่ยถึงคำว่า “พอเพียง” โดยเขาลองใช้ชีวิตพอเพียงแล้ว ไม่ประสบความสำเร็จ  และสะท้อนว่าเป็นความดัดจริต ของตนเองที่ต้องการให้คนมองเห็นว่า พอเพียง รวมทั้งเสียดสีคนดังที่ทำเช่นเดียวกับเขา

จริงๆต้องขอบคุณที่ศิลปินคนดังกล่าวนั้น ยอมรับออกมาตรงๆว่าเขาเคยแสร้งทำ แต่มันก็สะท้อนถึงพื้นฐานความไม่ความเข้าใจหลักปรัชญาดังกล่าวอย่างถ่องแท้ ซึ่งอีกมุมก็น่าเห็นใจเขาด้วยซ้ำ ที่ไม่สามารถเข้าถึงแก่นได้

จะด้วยกระแสหรืออะไรก็ตามแต่ ทำให้ทอล์คโชว์ของเขามีผู้เข้าชมจำนวนมาก แต่การสะท้อนแง่คิดที่ล้มเหลวของเขา ผ่านทอล์กโชว์ อีกมุมหนึ่งก่อให้เกิดการอธิบายเรื่องหลักการเศรษฐกิจพอเพียงออกมาจากผู้คนต่างๆ เพราะฉะนั้น หากอยากจะฟังเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงจากผู้มีปัญญา ก็ไม่จำเป็นจะต้องไปฟังจากศิลปินคนดังกล่าว

กระนั้น หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 คืออะไรนั้น จะขอนำมาถ่ายทอดสู่เราๆท่านๆ อีกครั้ง

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา อธิบายว่า เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริอยู่ เหนือกว่าเศรษฐกิจแบบทุนนิยมของตะวันตก ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องวัตถุที่เป็นรูปธรรม เช่น เงิน ทรัพย์สิน กำไร ไม่เกี่ยวกับเรื่องจิตใจซึ่งเป็นนามธรรม แต่เศรษฐกิจพอเพียงมีขอบเขตกว้างขวางกว่าเศรษฐกิจ นายทุนหรือเศรษฐกิจธุรกิจ เพราะครอบคลุมถึง 4 ด้าน คือ

1. มิติด้านเศรษฐกิจ เศรษฐกิจพอเพียงเป็นเศรษฐกิจแบบพออยู่พอกินให้มีความขยันหมั่นเพียร ประกอบสัมมาอาชีพเพื่อให้พึ่งตนเองได้ให้พ้นจากความยากจน การปฏิบัติตามทฤษฎีใหม่ตามแนว พระราชดำริเป็นตัวอย่างของการปฏิบัติตามเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งได้ช่วยให้เกษตรกรจำนวนมากมีรายได้ เพิ่มสูงขึ้น และมีชีวิตที่เป็นสุขตามสมควรแก่อัตภาพพ้นจากการเป็นหนี้และความยากจน สามารถ พึ่งตนเองได้ มีครอบครัว ที่อบอุ่นและเป็นสุข

2. มิติด้านจิตใจ เศรษฐกิจพอเพียงเน้นที่จิตใจที่รู้จักพอ คือ พอดี พอประมาณ และพอใจในสิ่งที่มี ยินดีในสิ่งที่ได้ ไม่โลภ เศรษฐกิจพอเพียงจะต้องเริ่มที่ตัวเองโดยสร้างรากฐานทางจิตใจที่มั่งคง โดยเริ่ม จากใจที่รู้จักพอเป็นการปฏิบัติตามทางสายกลางหรือมัชฌิมาปฏิปทา

3. มิติด้านสังคม เศรษฐกิจพอเพียงมุ่งให้เกิดสังคมที่มีความสุขสงบ ประชาชนมีความเมตตาเอื้ออาทร ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างอยู่ มุ่งให้เกิดความสามัคคีร่วมมือ เพื่อให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้โดย ปราศจากการเบียดเบียนกัน การเอารัดเอาเปรียบกัน การมุ่งร้ายทำลายกัน

4.มิติด้านวัฒนธรรม วัฒนธรรม หมายถึง วิถีชีวิต (way of life) ของประชาชน เศรษฐกิจพอเพียงมุ่ง ให้เกิดวัฒนธรรมหรือวิถีชีวิตที่ประหยัด อดออม มีชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย ไม่ตกเป็นทาส ของวัตถุนิยมและบริโภคนิยม ซึ่งทำให้เกิดการเป็นหนี้เป็นสินเกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นปัญหาสังคมที่ ร้ายแรงที่สุดปัญหาหนึ่งที่บ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ

ดร.สุเมธยังได้อธิบายเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงไว้ในหลายที่ ดังจะนำมาถ่ายทอดเพิ่มเติมในวันถัดไป