เสือตัวที่ 6
การต่อสู้ในพื้นที่ชายแดนใต้ของไทยนั้น รัฐต้องดำเนินการอย่างกลมกลืนทั้งงานการเมืองและงานการทหารผ่านการบังคับใช้กฎหมายด้วยกองกำลังของรัฐเข้าต่อสู้กับกลุ่มคนที่มุ่งหมายแบ่งแยกการปกครอง เพราะพื้นที่แห่งนี้เป็นสมรภูมิการสู้รบที่มีความลุ่มลึกจนยากที่จะทำความเข้าใจได้โดยง่าย การต่อสู้จึงยืดเยื้อมาได้หลายสิบปี แต่สิ่งที่เห็นได้ค่อนข้างชัดก็คือ ฝ่ายกลุ่มบีอาร์เอ็นมีท่าทีที่จะเป็นฝ่ายนำฝ่ายรัฐอยู่ระยะหนึ่ง อาทิ การยกสถานะของกลุ่มก่อความไม่สงบหรือกลุ่มแบ่งแยกดินแดนของไทยขึ้นสู่สถานะที่เทียบเท่ารัฐไทยได้ในฐานะคู่เจราจาสันติภาพอย่างเป็นทางการ การต่อสู้ในเวทีระดับชาติที่สามารถนำพาแนวคิดการให้อิสรภาพในการดำรงชีวิตของคนพื้นถิ่นแห่งนี้สู้ผู้คนในระดับสภาผู้แทนราษฎรได้อย่างแยบยลและกลมกลืนไปกับการต่อสู้เพื่อเรียกร้องให้ได้มาซึ่งสิทธิและเสรีภาพในการดำเนินชีวิตของผู้คนในพื้นที่อื่นๆ ของประเทศผ่านการรณณรงค์ให้ออกกฎหมายที่เอื้ออำนวยให้กลุ่มคนในพื้นที่แห่งนี้บรรลุอิสรภาพการปกครองกันเองได้ในอนาคตอันใกล้
การต่อสู้ของกลุ่มเห็นต่างจากรัฐที่มีกลุ่มบีอาร์เอ็นเป็นตัวการหลัก ใช้การต่อสู้ทางการเมืองผ่านกระบวนการบ่มเพาะความเกลียดชังไปยังกลุ่มเป้าหมายอย่างเป็นระบบ การส่งผ่านแนวคิดที่เอื้ออำนวยต่อการบรรลุเป้าหมายคือปกครองกันเองไปยังคนในระดับต่างๆ ไปจนถึงกลุ่มคนในระดับชาติ เพื่อให้คนกลุ่มนี้เป็นแนวร่วมในการออกกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนไปสู่อิสระในการปกครองของบีอาร์เอ็น การขับเคลื่อนการต่อสู้ทางความคิดผ่านกระบวนการพูดคุยสันติสุขหรือการเจรจาสันติภาพอย่างเข้มข้น การต่อสู้ในระดับองค์กรระหว่างประเทศที่มีทีมงานพร้อมส่งผ่านแนวคิดการสนับสนุนในการเข้ามาช่วยทำให้การบรรลุเป้าหมายของขบวนการนี้เป็นผลสำเร็จ คู่ขนานการการต่อสู้ด้วยอาวุธของกองกำลังติดอาวุธของบีอาร์เอ็นอย่างต่อเนื่องผ่านการทำลายล้างเจ้าหน้าที่รัฐทุกกลุ่มเป็นลำดับแรก ด้วยเจ้าหน้าที่รัฐนั้นเป็นสัญลักษณ์ของรัฐไทยอย่างชัดเจน
การต่อสู้ของขบวนการแบ่งแยกดินแดนจากรัฐโดยกลุ่มบีอาร์เอ็นที่ผ่านมาจวบจนวันนี้ จึงมีความคงเส้นคงวาในการต่อสู้ที่ใช้ทั้งงานการเมืองและงานการทหารในการทำลายล้างฝ่ายรัฐอย่างกลมกลืน ในขณะที่รัฐยังคงพยายามในการลดระดับการต่อสู้ด้วยอาวุธโดยกำลังทหารให้ดูแข็งกร้าวน้อยลง อาทิ ปรับลดในเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย หากไม่จำเป็นจะไม่บังคับใช้ และปรับลดด่านตรวจในพื้นที่ให้เหลือน้อยที่สุด ทั้งยังปรับเปลี่ยนช่วงเวลาตลอดจนการตั้งด่านตรวจเท่าที่จำเป็น ยกเว้นด่านถาวรในพื้นที่ที่ยังคงต้องดำเนินการเพื่อตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมายและเฝ้าระวังความปลอดภัยทางถนนเพื่ออำนวยสะดวกต่อการสัญจรแก่ประชาชน นอกจากนี้ได้มีการปรับลดป้ายประกาศหมายจับเท่าที่จำเป็นรวมทั้งปรับการติดตั้งให้เหมาะสม พร้อมกับการให้ประชาชนทุกศาสนิกสามารถปฏิบัติภารกิจตามความคิด ความเชื่อ อัตลักษณ์ของทุกคนในทุกเทศกาลได้อย่างเต็มที่เพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดี และหันมาใช้การต่อสู้ทางการเมืองที่ยังคงสับสนในความหมายของการต่อสู้ทางการเมืองของรัฐจนขาดพลังในการต่อสู้ทางการเมืองกับกลุ่มบีอาร์เอ็นเท่าที่ควร โดยดูได้จากการขาดพลังในการขับเคลื่อนการเจรจาสันติภาพของฝ่ายรัฐในขณะที่ฝ่ายบีอาร์เอ็นกลับเป็นฝ่ายนำเสนอเงื่อนไขแรงๆ อาทิ ยอมให้บีอาร์เอ็นเปิดเผยตัวโดยไม่มีการจับกุม ยอมให้เข้าเมืองได้ ยอมให้จัดเวทีประชุมระดมความเห็นเพื่อแสวงหาทางออกทางการเมืองและรับฟังความเห็นสาธารณะ ตามแผน JCPP ทั้งรัฐต้องให้การคุ้มครองคุ้มกันคนเหล่านี้ไม่ให้เกิดอันตรายขณะเข้ามาจัดกิจกรรมด้วย รวมทั้งรัฐต้องยอมปล่อยนักโทษคดีความมั่นคง และปลดหมายจับ เป็นต้น
การขับเคลื่อนการต่อสู้ของกลุ่มบีอาร์เอ็นจึงใช้การต่อสู้ทางการเมืองในทุกระดับควบคู่กับการต่อสู้ด้วยกำลังทหารที่เข้มข้นตามจังหวะก้าวของการต่อสู้อย่างกลมกลืนยิ่ง สอดคล้องกับแนวคิดของ ผบ.ทบ. ในโอกาสที่ลงพื้นที่กองอำนวยการภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งได้สั่งการกำชับให้กองทัพภาค 4 เน้นงานรุกทางด้านการเมืองให้มากขึ้นเพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบ จชต. ในขณะที่กลุ่มบีอาร์เอ็นยังคงดำรงความมุ่งหมายในการต่อสู้ทั้งการใช้ความรุนแรงผ่านการต่อสู้ด้วยอาวุธควบคู่กับการต่อสู้ด้านการเมืองอย่างกลมกลืนมากขึ้นเพื่อบรรลุเป้าหมายการแบ่งแยกดินแดน ผ่านการส่งผ่านกิจกรรมอันหลากหลายทั้งในประเทศและพลังการสนับสนุนจากต่างประเทศ อาทิ สร้างเงื่อนไขไปสู่การเข้ามามีส่วนร่วมแก้ปัญหา จชต. ของต่างชาติและองค์กรระหว่างประเทศ ภายใต้ข้อเรียกร้องสิทธิในการกำหนดใจตนเอง (RSD) ผ่านการทำประชามติที่มีการเคลื่อนไหวอย่างเข้มข้น
การต่อสู้ด้วยอาวุธด้วยความรุนแรงของขบวนการแบ่งแยกการปกครองปลายด้ามขวานผสมกลมกลืนและหนุนเสริมกับการต่อสู้ทางการเมืองผ่านวาทกรรมหลัก อาทิ พื้นที่แห่งนี้เป็นดินแดนแห่งสงคราม หรือดารุลฮัรบี จึงมีความชอบทำต่อกลุ่มก่อความไม่สงบในการทำญิฮาดหรือสงครามศาสนา ซึ่งกลุ่มบีอาร์เอ็นนำมาใช้เป็นเงื่อนไขเคลื่อนไหวปลุกระดมในพื้นที่อย่างเข้มข้น ในขณะที่การต่อสู้ทางการเมืองของรัฐยังขาดพลังในการต่อสู้เท่าที่ควร แม้จะพยายามจัดเวทีเพื่อการต่อสู้ทางการเมืองผ่านการต่อสู้ทางความคิด อาทิ อดีตจุฬาราชมนตรี นาย อาศิส พิทักษ์คุมพล เคยชี้แจงในเรื่องดารุลฮัรบีว่าจังหวัดชายแดนใต้ ไม่ใช่ดินแดนแห่งสงคราม เนื่องจากคนในพื้นที่ก็มีสิทธิในการเป็นพลเมืองที่เท่าเทียมกันกับคนไทยทั่วประเทศ ได้รับสิทธิในการปฏิบัติศาสนากิจอย่างเต็มที่ไม่มีการกีดกั้น ทั้งยังเห็นว่าเป็นการบิดเบือนคำสอนทางศาสนาอิสลาม ที่เป็นศาสนาแห่งสันติไม่สนับสนุนการทำร้ายเอาชีวิตหากแต่พลังในการต่อสู้ทางการเมืองของรัฐยังขาดประสิทธิภาพ ขาดการบูรณาการเท่าที่ควร ผู้นำกองทัพจึงได้เน้นย้ำให้หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่เร่งปรับการต่อสู้ทางการเมืองให้เข้มข้น อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ในพื้นที่แห่งนี้จะเน้นหนักไปที่ด้านใดไม่ได้ หากแต่รัฐต้องใช้ทั้งการต่อสู้ทางการเมืองที่ผสมกลมกลืนไปกับการต่อสู้ทางทหารเพื่อบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มแข็ง จึงจะรักษาบูรณภาพแห่งดินแดนไทยไว้ได้อย่างแท้จริง