รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์

ที่ปรึกษาสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

 

เป็นเทศกาลสำคัญของชาวไทยที่สืบสานคุณค่า (ประเพณี) มอบความสุข (ปีใหม่ไทย) ความสนุกสนาน (สาดน้ำ) และเป็นของขวัญแห่งความภูมิใจ “มรดกทางวัฒนธรรม” (ยูเนสโก) เหมารวมอยู่ในเทศกาลเดียว !!!

 

เมื่อปลายปี 2566 ที่ผ่านมา ( 6 ธ.ค.) องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ประกาศขึ้นทะเบียนประเพณีสงกรานต์ "สงกรานต์ในประเทศไทย" ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (Intangible Cultural Heritage of Humanity) ส่งผลให้เทศกาลสงกรานต์ปี 2567 นี้ กลับมาจัดแบบคึกคักกว่าเคย และกล่าวได้ว่าเป็นปีแห่งสีสันของการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ที่คนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต่างต้องจดจำ !!!

เหตุผลสำคัญที่ทำให้สงกรานต์ของปีนี้เป็นปีที่มีความหมายต่อคนไทยและโดยเฉพาะต่อรัฐบาลไทย ก็เนื่องจากเป็น “สงกรานต์” ครั้งแรกของรัฐบาลประชาธิปไตย หลังจากที่บ้านเมืองปกครองด้วยรัฐบาลทหารมาหลายปี เทศกาลสงกรานต์ก็งดเว้นไป เพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงเศรษฐกิจไม่ดี ค่าครองชีพสูง การค้าขายย่ำแย่ และการลงทุนซบเซา สิ่งเหล่านี้ทำให้ความสุขความสนุกของคนไทยลดน้อยลงไปมากในช่วง 4 ถึง 5 ปีมานี้ การมาถึงของเทศกาลสงกรานต์ปี 2567 จึงเปรียบเสมือนเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ (Restart) ในการรีเทิร์น (Return) ความสุข ความสนุก และความรุ่งเรืองให้กลับคืนมา

รัฐบาลได้ทุ่มงบจัดงานเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ เกือบ 190 ล้านบาท จัดกันแบบจุก ๆ ฉ่ำ ๆ ถึง 21 วันเต็ม ช่วงวันที่ 1-21 เม.ย. ผ่านเครือข่ายวัฒนธรรม 76 จังหวัดทั่วประเทศ และ 50 เขตในกรุงเทพมหานคร โดยหวังให้ “สงกรานต์” ประเทศไทยติด Top 10 ประเทศสุดยอดเทศกาลของโลก และชูให้ “สงกรานต์” เป็นพลัง Soft Power ของการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่จะต่อยอดไปสู่ภาคเศรษฐกิจผ่าน 11 อุตสาหกรรม Soft Power ประกอบด้วยอาหาร กีฬา เฟสติวัล ท่องเที่ยว ดนตรี หนังสือ ภาพยนตร์ เกม ศิลปะ ออกแบบ และแฟชั่น โดยหวังว่าจะสร้างเม็ดเงินเป็นกอบเป็นกำและกระจายรายได้หมุนเวียนสู่ภาคธุรกิจและประชาชนประมาณ 3,125 ล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวราว 2 แสนกว่าคน

ด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. คาดการณ์ว่า ตั้งแต่วันที่ 4 – 29 เมษายน 2567 จะมีการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศประมาณ 15.03 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้จาการท่องเที่ยวกว่า 52,500 ล้านบาท ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยเดือนเม.ย. เพียงเดือนเดียวมีประมาณ 2,908,600 คน และทำรายได้ให้กับประเทศราว 131,992 ล้านบาท

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเพิ่มมากขึ้น ร้อยละ 25.81 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา จังหวัดที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด 5 อันดับแรกได้แก่ ชลบุรี เชียงใหม่ กรุงเทพฯ ขอนแก่น และภูเก็ต ขณะที่พื้นที่อัตลักษณ์ 5 ภูมิภาคทั่วประเทศไทยที่เป็นเมืองหลักของการจัดงานเทศมหาสงกรานต์ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง สุโขทัย และนครศรีธรรมราช ฯลฯ

‘เทศกาลสงกรานต์’ เป็นเทศกาลสำคัญและยิ่งใหญ่ของคนไทย เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่คนไทยไปทำบุญ ตักบาตร ไหว้พระ สรงน้ำพระพุทธรูป รวมญาติพี่น้อง และรดน้ำดำหัวผู้อาวุโสเพื่อความเป็นสิริมงคลตลอดปีใหม่ หลากหลายกิจกรรมช่วงสงกรานต์ที่ทำให้ชาวไทยเต็มไปด้วยความสุข และเป็นการชาร์จพลังในช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่องก่อนกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติ ตัวอย่างความสุขง่าย ๆ ในช่วงวันหยุดยาวแบบนี้นอกเหนือจากการเดินทางไปที่ต่าง ๆ เช่น ดูซีรีส์เกาหลี-จีน-อินเดีย อ่านหนังสือ ทำอาหารกินในครอบครัว ปลูกต้นไม้ ออกกำลังกาย เป็นต้น

สำหรับสายบุญ มีวัดยอดนิยมที่ชาวไทยชอบไปทำบุญ ไหว้พระ อาทิ ในกรุงเทพฯ ได้แก่ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง) วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร จ.สุพรรณบุรี - วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จ.กาญจนบุรี - วัดถ้ำเสือ จ.ฉะเชิงเทรา - วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา - วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.ลพบุรี – วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก - วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) จ.เชียงใหม่ - วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร และจ.สงขลา - วัดมหัตตมังคลาราม (วัดหาดใหญ่ใน)

ส่วนสายสาดสนุกก็มีพื้นที่ให้ไปสาดกันทั้งแบบเปียกน้อยและเปียกมาก ไม่ต่ำกว่า 118 จุดในกรุงเทพฯ เช่น สงกรานต์ลานคนเมือง "Maha Songkran World Water Festival เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567" The ICONIC Songkran Festival : งานไอคอนสยาม มหัศจรรย์พระยามหาสงกรานต์ สงกรานต์สยามผ้าขาวม้า อยู่เย็น เป็นสนุก งานสงกรานต์ถนนข้าวสาร งานสงกรานต์สีลม ฯลฯ และในต่างจังหวัดอีก 93 พิกัด เช่น ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง เชียงใหม่ สงกรานต์มอญ ณ วังก์วิเวการาม สังขละบุรี งานสงกรานต์ศรีมหาราชาและประเพณีกองข้าว ปี 2567 ณ เกาะลอยศรีราชา ชลบุรี ฯลฯ

นับว่าสงกรานต์ปีนี้เป็นอีเวนต์ที่อลังการทั่วไทยจริง ๆ เป็นการนำเอาคุณค่าเอกลักษณ์ประเพณีไทยมาผสานกับไอเดียสร้างสรรค์ สร้างคุณค่าและมูลค่าเชิงเศรษฐกิจที่มีอิมแพคไม่เบา เพราะ “คนก็ (คง) สุข & เศรษฐกิจก็ (คง) สดใส” ภูมิใจในความเป็นคนไทยมากครับ และขอให้ทุกท่านโชคดี เดินทางปลอดภัย และมีความสุขมาก ๆ ตลอดปีใหม่ไทยกันนะครับ...