สงครามการเมืองบทใหม่ เพิ่งเริ่มต้น !? 
 

เมื่อการปรากฏตัวของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินสายไปเยี่ยมบ้านเกิด ที่จังหวัดเชียงใหม่ ในรอบ 17 ปี ใช้เวลาถึง 3 วันเพื่อทำกิจกรรมทั้ง การบ้าน และ การเมือง ไปในคราวเดียวกัน แม้เจ้าตัวจะอยู่ในระหว่างการพักโทษ  กลายเป็น เงื่อนไขใหม่ ที่เกิดเป็น แรงกดดันต่อทุกๆฝ่าย ที่เกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับทักษิณ ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม 

 แม้ทักษิณ จะฝากสื่อไปถึง คนที่ไม่ชอบ และวิพากษ์วิจารณ์ความเคลื่อนไหวของเขาว่า ใครไม่ชอบ ก็ให้ต่างคนต่างอยู่ ก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่จะตามมาคือปฏิกิริยา ตรงข้าม อย่างสิ้นเชิง อย่างน้อยที่สุดในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั่วไป ของทั้ง วุฒิสภา และฝ่ายค้าน ที่จะมีขึ้นก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯ ในวันที่ 9 เม.ย.นี้ เป้าโจมตีใหญ่ จะอยู่ที่ทักษิณ เป็นหลัก 

 และดูเหมือนว่า พรรคเพื่อไทย เองจะประเมินสถานการณ์ที่จะนำมาซึ่งความยุ่งยาก ได้ ล่าสุด สมคิด เชื้อคง  รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง คาดหมายว่า ในวันที่ 25 มี.ค.นี้ ที่ สว.จะอภิปรายนั้น ขอให้เป็นไปเพื่อนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาให้รัฐบาล  ไม่ควรอภิปรายนอกประเด็น หรือมุ่งอภิปรายไป ที่เรื่องของ ทักษิณ และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  อดีตนายกฯ เพราะไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน อีกทั้งการอภิปรายครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ควรใช้ให้เกิดประโยชน์กับประชาชน
 

การออกมาปรามจากแกนนำพรรคเพื่อไทย โดยที่ศึกซักฟอกรัฐบาลจากสว.และฝ่ายค้าน ยังไม่เริ่มต้นนั้นส่วนหนึ่ง มาจากการที่แรงกระเพื่อมและเสียงวิพากษ์ จากการเดินสาย เดินตลาดไปพบปะชาวเชียงใหม่ ไม่ต่างจากการเย้ยเยาะ ไปยัง ใครก็ตาม ที่เคยยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามพรรคเพื่อไทย และตัวทักษิณ ว่าวันนี้เขากลับมาแล้ว ด้วยความปลอดโปร่งโล่งใจ 

 แต่อย่างไรก็ดี การอภิปรายซักฟอกรัฐบาล โดยสว.ชุดนี้ที่นับถอยหลัง ใกล้หมดวาระในวันที่ 11 พ.ค.นี้นั้น ย่อมมีความหมาย มากไปกว่าการถล่มรัฐบาลเพื่อ ทิ้งทวน แต่ในทางกลับกัน นี่อาจเป็นสัญญาณที่กดดันไปยัง ทักษิณ โดยตรงว่า ทางเดินข้างหน้านั้นไม่ได้ราบรื่น ไปเสียทั้งหมด โดยเฉพาะเมื่อใดก็ตาม ที่ อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ยังไม่ได้กลับมายืนอยู่ที่ประเทศไทย ดีลลับ ที่เคยแลกเปลี่ยนกันเอาไว้นั้น ยังเดินไปไม่ถึงบทสรุปอยู่ดี !