หัวขบวน พรรคก้าวไกล ตัวจริง อย่าง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เดินสายลงพื้นที่พบกับสมาชิกพรรคก้าวไกล ที่ผ่านมา แน่นอนว่า ธนาธร ไม่ได้มุ่งพูดคุยเฉพาะประเด็นให้เตรียมความพร้อม การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เท่านั้น
แต่หลักใหญ่ใจความยังอยู่ที่การไปปลุกใจคนพรรคก้าวไกลอย่าหวั่นไหวไปกับเรื่องของการ ยุบพรรค เพราะไม่ว่าจะยุบพรรคกันอีกกี่ครั้ง ก็ไม่สำคัญเท่ากับการที่ อุดมการณ์ ของพรรคก้าวไกลยังคงอยู่ และเรียกร้องให้ทุกคนร่วมกันสานต่ออุดมการณ์อันแน่วแน่ต่อไป
เช่นเดียวกับ ชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินสายไปพบสมาชิก ในงานสมาชิกสัมพันธ์ ที่จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมาว่าไม่ต้องห่วงกระแสข่าวเรื่องการยุบพรรคก้าวไกลเพราะไม่ว่าจะยุบกี่ครั้ง พรรคก็จะโตไม่หยุด !
ไม่ว่าเขาจะทำอะไรกับพรรคก้าวไกล ขอให้เรามุ่งมั่นเดินหน้า ช่วยกันสร้างการเมืองแบบนี้ให้ลงหลักปักฐานมากยิ่งขึ้น ขอให้ช่วยกันทำพรรคการเมืองนั้นให้เป็นพรรคการเมืองที่ประชาชนอยากเห็นให้ได้และเติบโตไปด้วยกัน
ทว่าล่าสุดคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)มีมติเอกฉันท์ เมื่อวันที่ 12 มี.ค.67 เสนอเรื่องพร้อมความเห็น ต่อ ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งยุบ พรรคก้าวไกล และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค
สืบเนื่องจากกรณีก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์วินิจฉัยว่าการกระทำของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ที่เสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 แล้วใช้เป็นนโยบายในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
แน่นอนว่า เมื่อกกต. เริ่ม ขยับ พรรคก้าวไกลแม้จะพยายามดำเนินบทบาท ไม่หวั่นไหว แต่นาทีนี้ในความเป็นจริงแล้ว ใช่ว่าลึกๆแล้ว สมาชิกพรรคก้าวไกล จะมั่นใจได้ว่าสถานการณ์จากนี้ พรรคจะอยู่ในมุมที่ยังเป็นบวก และสร้างความมั่นใจให้กับสมาชิกพรรคไปจนถึง ด้อมส้ม เพราะอย่าลืมว่าทุกการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทุกคราวที่มีการยุบพรรคเกิดขึ้น คีย์แมน ตัวหลักๆของพรรคจะหายไปจากสังเวียน แม้มากน้อยแตกต่างกันก็ตาม
การพิสูจน์ข้อสมมติฐานของแกนนำพรรคก้าวไกล และตัวธนาธร ในฐานะเจ้าของพรรคตัวจริง ว่าการยุบพรรค จะทำให้พรรคยิ่งโตนั้น ยังคงรอการพิสูจน์ !