ต่อเนื่องจากฉบับที่แล้ว เรื่อง“ภาษาการเมือง(ที่เข้าใจว่ายังสับสนกันอยู่เกี่ยวกับอุดมคติทางการเมือง)” ตามทัศนะของ พระธรรมโกศาจารย์ พุททาสภิกขุ ที่ได้แสดงเอาไว้ในการอบรมนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กลุ่มพุทธศาสตร์ เรื่อง “ภาษาเกี่ยวกับการเมือง” (https://pagoda.or.th/buddhadasa/20230330.html) ดังได้นำความมาเผยแพร่ ดังนี้
“…-อิสรภาพต้องประกอบด้วยธรรม
นี้จะเห็นความกำกวมของคำว่า มีอิสรภาพ ไร้อิสรภาพ ความถูกต้องมันอยู่ที่ว่า ประกอบอยู่ในธรรม หรือไม่ประกอบอยู่ในธรรม อิสรภาพนั้น อิสรภาพจากกิเลส หรือว่าจากธรรมมะ คือแก่ความถูกต้องหรือแก่ความผิดพลาดเท็จเทียม ถ้าอิสรภาพถ้าเป็นความถูกต้อง อย่างอิสรภาพอย่างที่เรียกว่าบัญญัติทางการเมือง แต่ในจิตใจนั้นไม่มีอิสรภาพเลย สมัครเป็นทาสของผู้ที่เรานิยม มันลึกกว่ากันอย่างนี้
ทีนี้ก็พิจารณาดู เห็นได้ง่าย คำว่าเป็นทาสกับเป็นไท มันเนื่องกันอยู่กับหลักอันนี้ คนก็ไม่ชอบเป็นทาส ชอบเป็นไท เป็นอิสระแก่ตัว แต่คำว่าคนนั้น มันไม่รู้ว่าอยู่ที่ตรงไหน คือมันคนดี หรือคนชั่ว คนที่สติปัญญาหรือคนโง่ มันต่างกันอยู่ตรงกันข้าม เพราะงั้นถ้าเป็นทาสหรือเป็นไทมันเป็นสองความหมาย ตรงกันข้ามหรือแย้งกันอยู่เสมอไป จะยกตัวอย่างเช่นว่า เป็นทาสของเขา เป็นทาสของมนุษย์อยู่ด้วยกันเนี่ย กับเป็นทาสของพระธรรมมันไม่เหมือนกัน เรายอมเป็นทาสของพระธรรม อย่างอาตมาเนี่ย เรียกตัวเองว่าพุทธทาส สมัครเป็นของพระพุทธเจ้า คือเป็นทาสของพระธรรม มันก็ไปไหนไม่รอด มันก็มีแต่ที่จะประกอบหรือประพฤติ หรือกระทำ อยู่แต่ในคลองของธรรม แต่ถ้าเป็นทาสของคน มันก็แล้วแต่คนเขาจะใช้ มันคนละอย่างนะ เพราะฉะนั้นคำว่าทาสระวังไว้ให้ดี มันมีอยู่ 2 ความหมาย มันเป็นอุดมคติก็ดี แล้วเป็นทาสของธรรมมะ แล้วมันทำอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากประพฤติตามธรรมมะ แล้วมันก็ไม่มีผิด มันก็แก้ปัญหาได้ แต่ถ้าเป็นทาสของคน มันไม่ไหวแน่ แม้จะเป็นของคนดี ค่อยยังชั่วหน่อย มันก็ยังไม่ค่อยไหว แต่ถ้าเป็นทาสของคนชั่ว แล้วมันก็ยิ่งเหมือนกับว่า ตายซะยังดีกว่า
เพราะงั้นเป็นทาส หรือเป็นไท ก็ยังต้องระวังอยู่อีก มันกำกวม ถ้าเป็นทาสของพระพุทธเจ้า มันก็คงปลอดภัยแน่ ถ้าเป็นทาสของคนมีกิเลส มันก็ไม่ไหว เพราะงั้นคำว่าทาสในที่นี้ ก็มี 2 ความหมาย ถ้าเราบูชาอุดมคติ บูชาความถูกต้อง อันนี้มันก็รอดตัวได้ อย่างนั้นแหละมันจึงจะเป็นอิสรภาพ
มันก็เลยเป็นคำพูดที่น่าหัว ถ้าเราเป็นทาสของพระธรรม เรากลับมีอิสรภาพ ถ้าเราเป็นทาสของคน ของกิเลส เราก็สูญเสียอิสรภาพ แม้ว่าทางร่างกายนี้มันจะดูก๋าหล๋า ว่าไม่เป็นทาสใคร คนโง่เข้าใจอย่างนั้นเสมอ คำว่าเป็นทาสหรือเป็นไทนี้ ต้องระวังให้ดี มันยังมีซ้อนๆ กันอยู่ ถ้าเป็นทางของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หรือเป็นทาสของความถูกต้องนี้มันก็ไม่เป็นไร
เพราะฉะนั้นจงระวังให้ดีว่า อย่าเมามายในอิสรภาพจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร มันจะไร้อิสรภาพโดยสิ้นเชิง สำหรับผู้ที่เมามายในอิสรภาพ จนไม่รู้จักว่าอิสรภาพมันคืออะไร ความเป็นทาสนั้นคืออะไร…” (อ่านต่อฉบับหน้า)