แสงไทย เค้าภูไทย
สหรัฐฯมีปัญหาก๊าซเรือนกระจก ค่าพลังงานแพง ไบเดนแก้ไปพร้อมกันสองด้านด้วยมาตรการคืนภาษี หนุนเอกชนผลิตกระแสไฟฟ้าที่ไม่ก่อมลภาวะ ทั้งจากแสงแดดลม เซลล์พลังงาน ส่งผล คะแนนนิยมในการเลือกตั้งปีหน้าพุ่ง
ในบรรยากาศหาเสียงเลือกตั้งบ้านเรา สหรัฐฯที่จะเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยหน้าปีหน้าก็เริ่มมีสีสัน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ใช้ความได้เปรียบในการเป็นรัฐบาล นำนโยบายและมาตรการการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในทุกด้านมาเป็นปัจจัยสนับสนุนสร้างความนิยมเพิ่มขึ้น
หนึ่งในปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนก็คือปัญหาพลังงาน โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าที่แพงเหมือนกับที่คนไทยประสบอยู่ขณะนี้
แต่สหรัฐฯ เจอก่อนหน้าแล้ว ทั้งค่าพลังงานแพง ทั้งปัญหาก๊าซเรือนกระจก อันเกิดจากการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยถ่านหิน และก๊าซเหลว
ไบเดนแก้ปัญหาทั้งสองด้านไปพร้อมกันด้วยโครงการพลังงานสะอาด (Clean energy projects ) ทั้งลดหรือขจัดมลภาวะทางอากาศ ทั้งลดค่าใช้จ่ายครัวเรือนด้านพลังงาน
ทั้งนี้ไบเดนตั้งกองทุน Tax Credit 10,000 ล้านดอลลาร์ ใช้มาตรการลดหย่อนภาษีให้แก่ผู้ผลิตกระแสไฟฟ้าที่เข้าร่วมโครงการ
ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและซื้ออุปกรณ์ผลิตกระแสไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นแผงโซลาร์เซลล์ ( solar panels) กังหันลม ( wind turbines) เซลล์เชื้อเพลิง( fuel cell) อุปกรณ์ที่ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าโดยอาศัยปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมี (electrochemical power generator ) ที่ไม่ก่อเกิดมลภาวะสามารถนำไปลดหย่อนหักภาษีหรือคืนภาษีได้ทั้งหมด
โครงการนี้เริ่มตั้งแค่ปี 2021 ซึ่งสามารถคืนภาษีได้ 26% ปีต่อมา เพิ่มขึ้นไปเป็น 30% ล่าสุดไบเดนขยายเวลาใช้อัตราคืนภาษีนี้ไปจนถึงปี 2032 คือยาวไปอีก 9 ปี
นอกจากใช้กับผู้ผลิตกระแสไฟฟ้าครัวเรือนและผู้ผลิตเป็นการค้าแล้ว ไบเดนยังตั้งโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังลมโดยสนับสนุนให้เอกชนตั้งกังหันลมได้ตลอดแนวชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก
โครงการนี้ถูกทหารเรือคัดค้าน เพราะเป็นการเกะกะชายฝั่งทำให้ยากแก่การปฏิบัติงานของกองทัพเรือ
ไบเดนจึงหาทางออกด้วยการให้ผู้ผลิตขยับสถานที่ตั้งกังหันให้สูงขึ้นไปโดยเฉพาะบนยอดเขาที่ลมทะเลพัดขึ้นไปปั่นกระแสไฟฟ้าได้โดยไม่เป็นที่กีดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพเรือ
บ้านเรามีแนวชายฝั่งทะเลทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามันยาวเหยียดจะ เอารูปแบบและวิธีการของผู้เฒ่าไบเดนมาใช้บ้างก็น่าจะดี
ช่วงนี้กำลังเข้าสู่โหมดหาเสียงโค้งสุดท้าย พรรคใด นักการเมืองใดสามารถนำเสนอแนวทางแก้ปัญหาค่าไฟโหดและการเสียค่าโง่สัญญาซื้อกระแสไฟฟ้าจนถูกใจคนไทยได้ คะแนนเสียงก็น่าจะไหลมาเทมา อย่างที่ลุงไบเดนกำลังทำแต้มอยู่ในขณะนี้
แต่ก็มิใช่ว่าความนิยมจะมาจากนโยบายลดหย่อน คืนภาษีให้แก่ผู้ผลิตกระแสไฟฟ้า “พลังสะอาด” เท่านั้น มาตรการอีกด้านที่ตรึงใจชาวอเมริกันก็คือมาตรการ ยกเลิกดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเรียน
คนอเมริกันเจน X Y Z ทุกวันนี้ทุกข์ระทมกับดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเรียนหรือ กยส.กันทั้งนั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ มีทั้งดอกเบี้ยกู้ยืมและค่าปรับกรณีผิดนัดชำระหนี้
ลุงไบเดนต้องต่อสู้อย่างหนักกับการปลดภาระหนี้ให้ประชาชนซึ่งเป็นอดีตนักศึกษา
เพราะเหมือนเมืองไทย คือผู้ดูแล บริหารกองทุนยืนยันไม่ยอมลดหย่อน ทั้งดอกเบี้ย ทั้งค่าปรับโดยอ้างว่าเพื่อให้นักศึกษารุ่นหลังๆได้มีเงินทุน กยส.ไว้เรียนกันต่อ
แต่ไบเดนยืนยันว่า รัฐบาลจะรับภาระค่าดอกเบี้ยเอง โดยให้อดีตนักศึกษาลูกหนี้จ่ายเฉพาะเงินต้นก็พอ ก็เลยหาทางออกกันได้
ก็ทีส่งเงินส่งอาวุธไปช่วยยูเครนรบรัสเซียเป็นพันๆล้านดอลลาร์ยังช่วยได้ แล้วกับยุวอเมริกันชนด้วยกัน แค่นี้ทำไมจะช่วยไม่ได้
ดูแล้วก็เป็นการหาเสียงด้วยรูปแบบประชานิยม
แต่ถ้าถามย้อนกลับว่า ที่เดินหาเสียงกันหน้าดำคล้ำเครียดทุกวันนี้ ชูนโยบายโน่นนั่นนี่ สัญญาว่าจะทำโน่นนั่นนี่ เพื่อประโยชน์ของประชาชน ก็เพื่อให้ประชา(ชน)นิยมมิใช่หรือ ?
ไบเดนนำเสนอมาตรการและโครงการที่ให้ประโยชน์แก่ประชาชนก็ทำให้เขาได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
ผลสำรวจล่าสุดพบว่าความนิยมของเขาเหนือกว่าโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีที่ประกาศจะกลับมาลงสนามเลือกตั้งอีกครั้ง
ก็คงจะด้วย สิ่งที่เขานำเสนอนั้น ล้วนแล้วแต่โดนใจประชาชนทั้งสิ้น