เสือตัวที่ 6  

14 เม.ย.66 ในพื้นที่ อ.เมืองยะลา ได้มีคนร้ายกลุ่มกองกำลังติดอาวุธในขบวนการแบ่งแยกดินแดนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคงแสดงศักยภาพในการต่อสู้ด้วยอาวุธของขบวนการร้ายแห่งนี้ที่มีต่อหน่วยงานของรัฐอยู่อย่างต่อเนื่อง ด้วยการลอบวางระเบิดสะพานรถไฟ บริเวณวัดเห้งเจีย ม.4 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา ส่งผลให้สะพานข้ามทางรถไฟเสียหายจนไม่สามารถเดินรถไฟได้ตามปกติ ในขณะเดียวกัน กลุ่มคนกองกำลังติดอาวุธของขบวนการร้ายแห่งนี้ก็ได้ก่อเหตุคนร้ายได้ปาระเบิดชนิดไปป์บอมบ์ ใส่ฐานทหารพราน 4107 (เสือโคร่ง) ต.ยะต๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา ซึ่งเป็นกลุ่มกองกำลังติดอาวุธของรัฐที่ถูกออกแบบมาเพื่อการต่อสู้ด้วยอาวุธกับขบวนการแห่งนี้โดยตรง เบื้องต้นทั้งสองปฏิบัติการของกลุ่มติดอาวุธของขบวนการแห่งนี้จะไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต         

หากแต่ว่าการปฏิบัติการดังกล่าว เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ต่อสาธารณะได้รับรู้ว่า กลุ่มคนในขบวนการร้ายแห่งนี้ยังคงมีศักยภาพในการต่อสู้ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการท้าทายให้เห็นว่ากลุ่มกองกำลังติดอาวุธของรัฐที่ถูกออกแบบมาเพื่อความพร้อมในการสู้รบด้วยอาวุธก็ไม่อาจยับยั้งการปฏิบัติการด้วยอาวุธของขบวนการได้ ตลอดจนแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการต่อสู้กับรัฐเพื่อเดินหน้าไปสู่จุดหมายปลายทางสุดท้าย นั่นคืออิสระในการปกครองกันเองของคนในพื้นที่ตามวิถีที่กลุ่มคนในขบวนการแห่งนี้ต้องการ รวมทั้งเป็นการส่งสัญญาณให้สมาชิกแนวร่วมของขบวนการแบ่งแยกดินแดนมีความฮึกเหิมในการต่อสู้กับรัฐอยู่ต่อไปอย่างทรงพลัง        

การแสดงออกในการใช้ความรุนแรงในช่วงท้ายของเทศกาลอันศักดิ์สิทธิ์ในเดือนถือศีลอดของพี่น้องไทยมุสลิมที่เรียกว่าเดือนรอมฎอนที่กองกำลังติดอาวุธของขบวนการร้ายแห่งนี้สามารถปฏิบัติการได้ตามแผนอย่างสมบูรณ์ที่แม้ว่าหน่วยกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ในพื้นที่ 8 อำเภอของ จ.ยะลา โดยเฉพาะในเขตตัวเมืองยะลา ที่ปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ พร้อมทั้งความเข้มงวดมากเป็นพิเศษเป็นเท่าตัว ที่มีทั้งเจ้าหน้าที่ประจำ จุดตรวจ -จุดสกัดในเส้นทางหลัก เส้นทางรอง และเส้นทางในชุมชน หมู่บ้าน จัดชุดลาดตระเวนขนาดเล็ก รถจักรยานยนต์-รถยนต์ ออกตั้งด่านลอยในเส้นทางย่อยรอบนอกเขตเทศบาลนครยะลา ก็ไม่สามารถสกัดกั้นการปฏิบัติการของขบวนการแห่งนี้ได้อย่างที่เห็น  

ในวันเดียวกันกับการปฏิบัติการของกลุ่มกองกำลังติดอาวุธของขบวนการร้ายแห่งนี้ในข้างต้น ก็ยังมีกลุ่มกำลังติดอาวุธของขบวนการแบ่งแยกดินแดนอีกกลุ่มหนึ่ง เข้าปฏิบัติการโจมตีฐานปฏิบัติการหมวดเฉพาะกิจ หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 31 ตำบลปะลุรู อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส โดยกลุ่มกองกำลังชุดนี้ได้ขว้างระเบิดไปป์บอมบ์เพื่อเปิดทาง แล้วบุกโจมตีโดยใช้อาวุธปืนสงครามนานาชนิดยิงถล่มซ้ำ โดยเจ้าหน้าที่รัฐตอบโต้การโจมตีของกองกำลังกลุ่มนี้โดยปะทะกันนานประมาณ 20 นาที ผลจากการเข้าโจมตีฐานปฏิบัติการพิเศษของกองกำลังติดอาวุธของรัฐครั้งนี้ส่งผลให้ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษได้รับบาดเจ็บไปถึง 3 นาย ในขณะที่กลุ่มกองกำลังติดอาวุธของขบวนการร้ายแห่งนี้ไม่มีรายงานว่าได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด อันเป็นตัวบ่งชี้เป็นอย่างดีว่าปฏิบัติการด้วยอาวุธของขบวนการสำเร็จลุล่วงตามแผนที่วางไว้อย่างสมบูรณ์เฉกเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา นั่นหมายความว่า ศักยภาพในการต่อสู้ด้วยอาวุธของขบวนการแห่งนี้มีความทรงพลังอย่างมืออาชีพ        

จากการพิสูจน์ทราบเบื้องต้นคาดว่ากลุ่มกองกำลังติดอาวุธกลุ่มนี้ มีการรวมกำลังเพื่อปฏิบัติการครั้งนี้มีไม่น้อยกว่า 10 คน โดยมีการวางแผนอย่างเหนือชั้น ซึ่งการก่อเหตุโจมตีกลุ่มติดอาวุธของรัฐถึงฐานปฏิบัติการในพื้นที่ครั้งนี้เชื่อว่าเพื่อต้องการสร้างสถานการณ์อันเป็นการส่งสัญญาณให้รับรู้ถึงการต่อสู้ของขบวนการแบ่งแยกดินแดนปลายด้ามขวานแห่งนี้ที่ยังคงเข้มข้นอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย และความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องหากเป้าหมายของพวกเขายังไม่ถึงจุดหมายปลายทางที่ต้องการ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ยังคงกลิ่นอายและบรรยากาศของสมรภูมิการสู้รบของพวกเขาที่กระทำต่อรัฐไทยผู้ปกครองอย่างเข้มข้น ทั้งยังต้องการชี้ให้เห็นว่าพวกเขาพร้อมที่จะต่อสู้กับรัฐในทุกรูปแบบโดยเฉพาะในช่วงก่อนสิ้นสุดเดือนรอมฎอนซึ่งเป็นห้วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ของพี่น้องชาวมุสลิม       

ห้วงเวลาของการปฏิบัติการโจมตีฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ติดอาวุธของรัฐที่ผ่านมานี้ เป็นการปฏิบัติการด้วยอาวุธสร้างความรุนแรงเฉกเช่นทุกๆ ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะห้วงท้ายๆ ของเทศกาลรอมฎอนของพี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ ทั้งนี้ เดือนรอมฎอน เป็นเดือนอันประเสริฐของพี่น้องชาวมุสลิม ที่ชาวมุสลิมทั่วโลก จะร่วมกันถือศีลอด งดรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม ตั้งแต่เวลาที่ดวงอาทิตย์ขึ้นจนดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า รวมทั้ง ปฏิบัติศาสนกิจตามหลักศาสนาอย่างเคร่งครัดเพื่อเพิ่มพูนผลบุญ และชาวไทยมุสลิมก็จะได้ร่วมเฉลิมฉลองวันอีฏิ้ลฟิตริ ร่วมกันโดยประกาศสำนักจุฬาราชมนตรี ให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศดูดวงจันทร์ ในวันพฤหัสบดีที่ 20 เม.ย. 2566         

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นห้วงเดือนรอมฎอนในลักษณะนี้เป็นที่คาดการณ์และใช้มาตรการความพร้อมระดับสูงสุดของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของรัฐเสมอมา หากแต่ว่ายังไม่สามารถระงับยับยั้งการก่อเหตุร้ายๆ ด้วยความรุนแรงของบรรดากลุ่มคนในขบวนการแบ่งแยกดินแดนปลายด้ามขวานไปได้ เพราะห้วงเดือนอันศักดิ์สิทธิ์ของพี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ ถูกบิดเบือนโดยชี้นำจากแกนนำขบวนการร้ายแห่งนี้ให้เชื่อว่า การต่อสู้เพื่อแผ่นดินเกิดในห้วงเดือนนี้จะเป็นบุญใหญ่ที่ทุกคนพึงกระทำ ความรุนแรงทั้งหลายในห้วงนี้จึงเป็นการส่งท้ายเดือนรอมฎอนที่ถูกอ้างว่าจะได้บุญยิ่งนัก