สร้างความงุนงง สงสัยไปตามๆกัน เมื่อคนในพรรคพลังประชารัฐ เกิดอาการ เสียงแตก ไปกันคนละทิศ ละทาง ทั้งที่เป็นเรื่องสลักสำคัญ จุดยืนของพรรคจะ จับมือ กับใคร หรือไม่ต้องการเชื่อมสัมพันธ์กับพรรคใดพรรคหนึ่ง
เมื่อ ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศชัดเจนว่า พรรคจะไม่จับมือกับ พรรคเพื่อไทย และ พรรคก้าวไกล จัดตั้งรัฐบาลรอบหน้า เพราะรับไม่ได้กับนโยบายหลายเรื่อง และไม่ต้องการให้พรรคต่างๆนำไปพูดเรื่อง ดีลลับ กลายเป็นการสร้างความเข้าใจผิด
แต่กลับกลายเป็นว่า สิ่งที่ไพบูลย์ ให้สัมภาษณ์สื่อ กลับกลายเป็นประเด็นที่ สวนทาง กับ แกนนำ ในพรรคพลงประชารัฐที่อยู่กันคนละสายกับไพบูลย์
เมื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำพรรค และ สันติ พร้อมพัฒน์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ต่างย้ำว่าเรื่องนี้เป็นความเห็นของไพบูลย์ เพียงคนเดียว ไม่ใช่ มติพรรค แต่อย่างใด และที่สำคัญ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ กรรมการบริหารพรรค รับรู้ด้วย
เท่ากับว่า เกิดภาวะ เสียงแตก ที่พรรคพลังประชารัฐ โดยสะท้อนผ่านสาธารณะ ชัดเจน เหมือนร้องเพลงกันคนละคีย์ ยิ่งเมื่อ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค เลือกที่จะใช้ ความเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ
ยิ่งทำให้ ความคุกรุ่น ปกคลุมไปทั่วพรรคพลังประชารัฐ ด้วยเกิดความเห็นแตกต่างกัน คนละทาง อย่างที่เห็น ทั้งที่ต่างฝ่าย ต่างอยู่ในระดับ คีย์แมน ของพรรคพลังประชารัฐด้วยกันทั้งสิ้น !
เสียงสะท้อนจากไพบูลย์ ย่อมไม่ใช่ความเห็นส่วนตัวของเขาเองเพียงลำพัง หากแต่มีความเป็นไปได้ว่า มีหลายคนในพรรคก็คิดเห็นไม่ต่างกัน ว่าหากยิ่งปล่อยให้กระแส ดีลลับ ลุกลาม จนทำให้ เชื่อ ว่าพรรคพลังประชารัฐ จับมือกับ พรรคเพื่อไทย กันจริงๆ แล้ว อาจจะกลายเป็นเรื่อง เสียมากกว่า ได้ ดังนั้นการเลือกวิธีปิดประตู ตัดสัมพันธ์ดีลลับ น่าจะเป็นผลในทางบวกกับพรรคพลังประชารัฐ มากกว่า
ขณะเดียวกัน การออกมาปฏิเสธ จากสันติ และร.อ.ธรรมนัส ว่าไม่ใช่มติของพรรคเรื่องที่จะจับมือหรือไม่จับมือกับใคร อาจกลายเป็นการ ตอกย้ำ ว่า ลึกๆแล้ว สายสัมพันธ์กับ พรรคเพื่อไทย ไม่ใช่เรื่อง โคมลอย หรือเกิดขึ้นไม่ได้ หลังการเลือกตั้ง
ยิ่งเมื่อกระแสของพรรคเพื่อไทย มีโอกาสที่จะเดินไปไม่ถึง แลนด์สไลด์ ได้จริงตามเป้า เท่ากับว่า การตั้ง รัฐบาลพรรคเดียว จึงไม่มีทางเป็นไปได้ ดังนั้นความสัมพันธ์ทางการเมือง หากผูกกันเอาไว้ ย่อมดีกว่า ตัดไมตรี ตามที่ไพบูลย์ เลือกทิ้งไพ่ ปิดประตู อย่างแน่นอน !