ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ในปี 2565 มีประชากรที่อายุ 60 ปีขึ้นไปถึง 12.9 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด 66.08 ล้านคน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565) ปัจจุบันผู้สูงอายุได้รับสิทธิและสวัสดิการจากรัฐต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ลดราคาค่าโดยสาร ลดหย่อนภาษีให้แก่บุตรได้ กู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพ ขอปรับสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมและปลอดภัย สิทธิทางการแพทย์ เป็นต้น
ในฤดูกาลหาเสียงเลือกตั้ง มีพรรคการเมืองที่มุ่งนำเสนอนโยบายเพื่อจูงใจคนสูงวัยให้ตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองเหล่านั้น ไล่มาตั้งแต่พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ประกาศปรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจะปรับให้เป็น 1,000 บาทเท่ากันทุกช่วยอายุ จากเดิมที่เป็นแบบขั้นบันไดคือ 600 - 1,000 บาท สร้างศูนย์ดูแลผู้สูงวัย ศูนย์สันทนาการผู้สูงอายุชุมชน และนโยบายลดภาษีให้กับบริษัทเอกชนที่จ้างงานผู้สูงอายุ
พรรคพลังประชารัฐ ปรับปรุงบัตรสวัสดิการผู้สูงอายุ เป็นสูตรนโยบาย 3 4 5 และ 6 7 8 ได้แก่ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปจะได้รับ 3,000 บาท อายุ 70 ปีขึ้นไป จะได้รับ 4,000 บาท และอายุ 80 ปีขึ้นไปจะได้รับ 5,000 บาท
พรรคประชาธิปัตย์ เสนอนโยบายออมเพื่อวัยเกษียณในภาคบังคับ และขยายอายุเกษียณจาก 60 ปีขึ้นไป ปรับปรุงระบบประกันสุขภาพในระบบต่างๆ ให้มีมาตรฐานใกล้เคียงกันเพื่อรองรับการรักษาสุขภาพคนที่เข้าสู่การเป็นผู้สูงอายุมากขึ้น
พรรคภูมิใจไทย เสนอกองทุนประกันชีวิต 60 ปี ขึ้นไป เสียชีวิตได้ 1 แสนบาท และสามารถกู้ได้ 20,000 บาท ไม่ต้องมีคนค้ำ
พรรคก้าวไกลเสนอนโยบายเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุเป็น 3,000 บาท ภายในปี 2570 สมทบเงินจากเงินผู้สูงวัยเข้าสู่กองทุนดูแลผู้สูงอายุ เพื่อเป็นงบประมาณให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในการพัฒนาระบบและโครงสร้างพื้นฐานด้านการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงภายในท้องถิ่น รวมถึงการจ้างงานผู้ดูแล
พรรคไทยสร้างไทย เสนอปรับ เพิ่มเบี้ยยังชีพคนชรา 3,000 บาทต่อเดือน
พรรคชาติพัฒนากล้า เสนอ “ยุทธศาสตร์สีเงิน” ให้เงินสนับสนุนผู้ประกอบการเพื่อจ้างงานผู้สูงอายุ และมีกองทุน 50,000 บาทต่อครัวเรือน เพื่อปรับอารยสถาปัตย์เพื่อการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ ตั้งเป้า 4 ล้านครัวเรือนในปีแรก
พรรคชาติไทยพัฒนา เสนอนโยบาย “WOW THAILAND” Wealth Opportunity and Welfare For All นโยบาย สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ผู้สูงอายุ
ในส่วนของพรรคเพื่อไทย แม้ยังไม่ได้ประกาศนโยบายผู้สูงอายุอย่างเป็นทางการ แต่นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช แกนนำพรรคเพื่อไทยระบุว่า พรรคเพื่อไทยจะเพิ่มประสิทธิภาพบัตร 30 บาทรักษาทุกโรค ให้ดีขึ้น ดูแลกลุ่มเปราะบางให้ดีขึ้น รวมถึงผู้สูงอายุด้วย ทำให้พวกเขามีความสุข การเพิ่มรายได้ การเพิ่มคุณภาพชีวิต เป็นการแก้ปัญหาลดภาระ
ทั้งนี้เป็น ข้อมูล ณ วันที่ 28 มีนาคม ซึ่งหลังจากนี้พรรคการเมืองอาจมีการนำเสนอนโยบายเพิ่มเติม