การเมืองไม่เคยหยุดยิ่ง บางครั้ง บางคราวดูเหมือนว่า ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง พ่ายแพ้ เพลี่ยงพล้ำ แต่ย่อมไม่ได้หมายความว่านั่นคือฉากจบ หรือบทสรุป ! 

เมื่อมูลนิธิบ้านป่ารอยต่อ5จังหวัด ของ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดต้อนรับไมตรีจาก พรรคภูมิใจไทย ด้วยความชื่นมื่น 

 เมื่อ เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นำ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และเลขาธิการพรรค รวมถึง ชาดา ไทยเศรษฐ์  ส.ส. จ.อุทัยธานี รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ถือเป็นแกนนำพรรคภูมิใจไทย รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน และน่าสนใจว่า ภาพการรับประทานอาหารร่วมกันระหว่าง บิ๊กป้อมกับ 3แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อคล้ายต้องการสื่อสาร และส่งนัยยะอย่างใดอย่างหนึ่ง ในจังหวะที่พรรคภูมิใจไทย กำลังรับมือกับ มรสุม ที่พุ่งเข้าใส่ ทั้งเรื่องกัญชา  รถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่ยังไม่ผ่านการพิจารณาจากครม. เมื่อวันที่ 14 มี.ค.66 ที่ผ่านมา โดยที่มีรายงานว่า บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกฯและรมว.กลาโหม ให้ถอนวาระดังกล่าวออกไปก่อน ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากพรรคร่วมรัฐบาลเช่นกัน 

การรับประทานอาหารร่วมกัน ของ2 หัวหน้าพรรคการเมืองในจังหวะหัวเลี้ยวหัวต่อ จวนเจียนใกล้ยุบสภาฯ และเตรียมเปิดสนามเลือกตั้งเช่นนี้  แน่นอนว่า สำหรับพรรคการเมืองฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าประชาธิปไตย อย่างพรรคก้าวไกล คงไม่สนใจ เพราะมีจุดยืนชัดเจนว่า ไม่จับมือกับพรรค บิ๊กตู่หรือบิ๊กป้อม แน่นอน 

แต่พรรคการเมืองที่เป็นเสมือน คู่แข่งของ พรรคพลังประชารัฐ อย่าง พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ เป็นว่าที่แคนดิเดตนายกฯ อาจต้องพิจารณา สัญญาณ จากบ้านป่ารอยต่อฯ มากเป็นพิเศษ เพราะอย่าลืมว่า วันนี้นักการเมืองไม่ได้คุยกันเฉพาะเรื่องหาเสียงเลือกตั้งเท่านั้น 

หากแต่คือการมองเกมข้ามช็อตไปถึง ว่าที่นายกฯคนที่ 30 ว่าจะเป็นใคร ในฟากของพรรคเพื่อไทย นั้นยังไม่ชัดเจน ว่า ตัวจริง คือใคร ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ กับพรรคภูมิใจไทย นั้นชัดเจนว่า ชูพล.อ.ประวิตร ส่วนพรรคภูมิใจไทยชูอนุทิน เท่ากับว่า ว่าที่แคนดิเดตนายกฯ ของ 2พรรคใหญ่ รับประทานอาหารร่วมกัน จนนำมาสู่ กระแสข่าวเรื่องการ จับขั้ว ทางการเมือง หลังเลือกตั้ง การรับประทานอาหารมื้อนี้ จึงมีนัยยะทางการเมือง ที่ไม่อาจละสายตา !