การออกมาเคลื่อนไหวของ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โดยอาศัยยิงหมัดตรงต่อเนื่อง เต้นฟุตเวิร์ค รอจังหวะเปิดเกม กำลังถูกจับตาว่าจะส่งผลกระทบต่อ พรรคการเมืองที่กำลังตกเป็น เป้า มากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ ที่ต่างเดินสายหาเสียง ตุนคะแนนกันอย่างคึกคัก
เมื่อวันที่ 13 มี.ค.66 ที่ผ่านมา ชูวิทย์ บุกไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อยื่นเรื่องให้ตรวจสอบการทุจริตด้วยกันถึง 4 ประเด็น ที่โยงใยถึง ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และพรรคภูมิใจไทย
แต่ที่สำคัญคือการที่ชูวิทย์ ประกาศ จะตามทำลายพรรคภูมิใจไทยจากนี้ไป จะตามทำลายพรรคภูมิใจไทย และจะไปจังหวัดบุรีรัมย์ โดยจะไปเคาะประตูบ้านนายเนวิน และนายศักดิ์สยาม เพราะไม่ใช่บ้านของนายเนวิน และนายศักดิ์สยาม แต่เป็นที่สาธารณะ ที่ รฟท.
นอกจากนี้ ชูวิทย์ ยังพุ่งเป้าไปยัง เสี่ยนิด เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่เพิ่งลงมาลุยสนามการเมืองเต็มตัว เดินสายหาเสียง ช่วยทำคะแนนให้กับ พรรคเพื่อไทย โดยชูวิทย์ ระบุว่า เขาเองมีเบื้องหลัง และหลักฐานที่สำคัญ แต่ยังไม่ขอเปิดเผย หากจากนี้เศรษฐา เป็นนักการเมืองที่ไม่มีอุดมการณ์ จะเปิดเผยเรื่องเหล่านี้แน่นอน
การเคลื่อนไหวของชูวิทย์ อาจถูกมองได้หลายมิติ แม้เจ้าตัวจะยืนยันว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่เกี่ยวกับเรื่องของการเมือง แต่ทำในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ต้องรักษาประโยชน์ส่วนรวมไว้ ทั้งประเด็นเรื่องการทุจริตที่มีแกนนำพรรคภูมิใจไทย เกี่ยวข้อง โดยที่ก่อนหน้านี้ ชูวิทย์ เองเพิ่ง เปิดฉากถล่มพรรค ด้วยประเด็นกัญชาเสรี ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล
เสียงดังที่อึกทึกของชูวิทย์ อาจเพิ่มดีกรีความแรง และเพิ่มระดับความดังจากนี้ไป ไม่ว่าใครจะมองว่าเรื่องนี้เป็นแค่ อีเว้นท์การเมือง ที่มีชูวิทย์ เป็นตัวละครหลักก็ตาม ย่อมกระทบและทำให้พรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทยตกอยู่ในอาการ หงุดหงิดใจ และอาจสุ่มเสี่ยงที่จะกระทบต่อ คะแนนนิยม ตามมา หากกระแสของชูวิทย์ เกิดจุดติด !