ดูเหมือนว่า การชูม็อตโต้ ก้าวข้ามความขัดแย้ง มุ่งไปสู่การปรองดอง ของ พี่ใหญ่ อย่าง บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กำลังกลายเป็น ปัญหาใหญ่  ที่ส่งแรงกระทบไปถึง พรรคการเมืองฝ่ายค้าน เข้าอย่างจัง ! 
 
เพราะยิ่ง หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศมุ่งสร้างปรองดอง สมานฉันท์กับทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยม หรือที่เรียกตัวเองว่า ฝ่ายประชาธิปไตย ยิ่งกลายเป็นการยื่นไมตรี ไปยังทุกฝ่าย เพื่อมาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง 
 
แน่นอนว่าการชูเป้าหมายเช่นนี้ ย่อมทำให้พรรคพลังประชารัฐ อยู่ในภาวะ สร้างมิตร ลดศัตรู  พร้อมประสานกับทุกฝ่าย แต่ในทางตรงข้ามย่อมไม่เป็นการดีต่อบางพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคการเมืองที่มีความชัดเจนว่าไม่เอาด้วยกับ 3ป. โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล 
 
ขณะที่พรรคเสรีรวมไทย เองได้เปิดรับ พรรคพลังประชารัฐ ที่มีบิ๊กป้อม มากขึ้น เท่ากับว่าพรรคก้าวไกล อาจสุ่มเสี่ยงที่จะสูญเสีย พรรคพันธมิตร เมื่อหลังเลือกตั้ง ในส่วนของพรรคเพื่อไทย  แม้แกนนำตัวหลักๆจะประกาศบนเวทีปราศรัยว่าต้องชนะแบบแลนด์สไลด์ ทำส.ส.ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 270 ที่นั่ง แต่อีกด้านหนึ่ง พรรคเพื่อไทย กลับถูกดึงให้เข้าไปพัวพันกับ กระแสข่าวการเปิดดีลกับพรรคพลังประชารัฐ จนคนของพรรคเพื่อไทย ต้องย้ำแทบทุกครั้งบนเวทีปราศรัย ว่าต้องชนะแบบแลนด์สไลด์  และไม่จับมือกับบิ๊กป้อม 
 
อย่างไรก็ดี กระแสของพรรคเพื่อไทย ในหลายพื้นที่นั้น ยังถูกรุก และล้อมกรอบจาก ฝ่ายตรงข้าม ทั้งพรรคภูมิใจไทย  พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมไทยสร้างชาติ  ที่ล้วนแล้วแต่เป็นพรรคการเมืองที่พร้อมจะจับมือกันตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งทั้งสิ้น 

 และอีกไม่นานเมื่อ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ต้องลดโปรแกรมออนทัวร์ เดินสายหาเสียงร่วมกับ แกนนำพรรคลง ด้วยสภาพความพร้อมของร่างกายที่ใกล้คลอด จะยิ่งกระทบต่อ กระแส ที่ยังอยู่ในระยะของการสร้างคะแนน
 
 แม้ล่าสุด จะได้ เศรษฐา ทวีสิน ที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เข้ามาเดินสายต่อจากอุ๊งอิ๊ง แต่เศรษฐา อาจไม่ได้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย ของพรรคเพื่อไทย 


 และยังต้องไม่ลืมว่า จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน เองยัง เขย่า พรรคเพื่อไทย ไปจนถึง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ชนิดไม่เลิกไม่รา โดยที่คนในพรรคเพื่อไทยเอง ไม่มีใครกล้า ออกมาชน หรือ เบรก จตุพร ได้ 


 สภาพแวดล้อมของพรรคเพื่อไทย ยามนี้ มีแต่ต้องเร่งปิดจุดอ่อน แล้วเสริมจุดแข็ง โดยเฉพาะการเปิดตัว ทีมเศรษฐกิจ ที่เปรียบมวยได้กับ พรรคของ 2ลุง  ได้เท่านั้น !