การทำหน้าที่ประคับประคอง ความเชื่อมั่น ในมือของ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จะยืดยาวและเข้มแข็งไปได้อีกนานแค่ไหน ยังเป็นเรื่องที่ตอบได้ยาก !
การปลุกทุกความเชื่อมั่นจากทุกองคาพยพที่ พรรคเพื่อไทย มีอยู่ในมือเพื่อเตรียมสู้ศึกนสงคราม ที่อาจกลายเป็นครั้งสุดท้าย ไม่เช่นนั้นภารกิจ พาพ่อกลับบ้าน ย่อมไม่ลุล่วงคือเงื่อนไขสำคัญทางการเมือง ในยามนี้
การเลือกตั้งรอบนี้ 500 ส.ส.ถูกแบ่งออกเป็น 400 ที่นั่งจากส.ส.เขต และส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์อีก 100 ที่นั่ง ภายใต้กติกา บัตร 2ใบ ใบหนึ่งเลือก คนที่รัก และอีกใบ เลือก พรรคที่ชอบ แต่น่าสนใจว่า แม้กติกาบัตร 2ใบ เคยเป็น ความได้เปรียบ สำหรับพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน ที่กวาดส.ส.เข้าสภาฯได้อย่างถล่มทลาย แต่สำหรับการเลือกตั้งรอบนี้ แม้ กติกา จะเอื้อ ปรากฏว่า สถานการณ์ ไม่อำนวย !
พรรคเพื่อไทยวันนี้ในความเป็นจริงแล้ว ยังอยู่ในสภาพที่เรียกว่า ไร้หัว ไม่ต่างจาก ไร้พลัง แม้จะมีหัวหน้าพรรคตามกฎหมายพรรคการเมือง แม้จะมี อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร คือตัวแทนของครอบครัวชินวัตร แต่เธอยังไม่ใช่ ตัวจริง สำหรับสมาชิกพรรค ที่มีอานุภาพมากพอ ในการถือธงนำทัพ
ยิ่งเมื่อสนามเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยไม่ได้เผชิญหน้ากับ 3ป. ที่แตกขั้วอำนาจออกเป็น 2พรรค คือ พรรคพลังประชารัฐ ของ บิ๊กป้อมพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรค และ บิ๊กตู่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม สมาชิกและว่าที่แคนดิเดตนายกฯ แต่อุ๊งอิ๊ง ยังต้องเจอกับการช่วงชิงเสียง โหวตเตอร์คนรุ่นใหม่ จาก พรรคก้าวไกล ที่กำลังกลายเป็นพรรคขวัญใจของคนรุ่นใหม่
ดังนั้นยิ่งเมื่อการไปปรากฎตัวของอุ๊งอิ๊ง พร้อมด้วยแกนนำพรรคเพื่อไทย ที่ยกพลไปหาเสียงช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ในจังหวัดเชียงราย และเชียงใหม่ บ้านเกิดครอบครัวชินวัตร แม้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะประกาศว่าเธอคือแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคบนเวทีปราศรัย แต่เจ้าตัวกลับบอกว่า ตอนนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่เสนอชื่อออกไป แต่ยอมรับว่ามีการพูดคุยกัน และการเป็นนายกฯ จะเป็นได้ต้องให้ประชาชนเลือก แต่การเสนอชื่อต้องเป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรค
การตอบคำถามของอุ๊งอิ๊ง หากมองว่าเป็นการ กั๊ก เพื่อรอความชัดเจน เพื่อสงวนท่าที ย่อมไม่มีผลในยามปกติ แต่ทว่าเมื่อศึกในศึกนอกจ่อเข้าประชิดตัว ทั้งภาคเหนือ และภาคอีสาน ทำท่าว่าพรรคเพื่อไทยจะต้านการบุกของ พรรคใหญ่ๆไม่ไหว หลายเวทีปราศรัยในภาคอีสานพบว่าประชาชนไม่ได้แน่นขนัด เหมือนเคย
ขณะที่ พี่น้องคนเสื้อแดง จำนวนไม่น้อย ถูกดึงไปเปิดหน้า ร่วมงานกับพรรคฝั่งตรงข้ามอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ หากจากนี้ไปพรรคเพื่อไทย ยังไม่เปิดเกมใหม่ๆ ออกมาเพื่อตอบโต้ฝั่งช้าม แล้วปล่อยให้อุ๊งอิ๊ง เดินสายต่อไปเช่นนี้ อาจ ยืนระยะไปไม่ถึงวันเลือกตั้ง ในเดือนพ.ค.นี้!