แสงไทย เค้าภูไทย
จีนเปิดเผยธาตุแท้ผ่านเจตนารมณ์ในการสร้างเส้นทางสายไหมใหม่ด้วยการที่คนจีน ทุนจีน สินค้าจีน ทะลักเข้าสู่ภูมิภาคที่เส้นทางหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางผ่าน โดยเฉพาะอินโดจีนที่กำลังจะกลายเป็นอาณานิคมทางเศรษฐกิจของจีน
ในยุคล่าอาณานิคมชาติตะวันตกเรียกแผ่นดินเหนือแหลมมลายูอันประกอบด้วย 4 ประเทศคือสยาม เขมร ลาว และญวน ที่เปลี่ยนชื่อ เป็น ไทย กัมพูชา ลาวและเวียดนามไปแล้ว โดยดินแดนนี้เป็นที่หมายตายึดครองเป็นอาณานิคมของชาตินักล่าอาณานิคม
มีไทยชาติเดียวที่ ร.5 ทรงดำเนินกุศโลบายถ่วงดุลอำนาจจนรอดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นขณะที่รอบด้านตกเป็นอาณานิคมฝรั่งหมด
จนถึงยุคสงครามลัทธิ เวียดนามด้วยแรงหนุนจากรัสเซียที่ต้องการสถาปนาสหพันธรัฐอินโดจีนส่งกองกำลังยึดกัมพูชาประชิดแดนไทย
ทำให้ไทยต้องร้องขอให้จีนช่วย จีนซึ่งเป็นลูกพี่เวียดนามจึงส่งกำลังนับแสนบุกเวียดนามทำ “สงครามสั่งสอน” ที่เวียดนามนอกใจออกนอกลู่นอกทางไปอยู่ในอาณัติรัสเซีย
สงครามสั่งสอนเป็นสงครามที่สั้นที่สุดในโลก คือจบลงแค่ภายใน 21 วันเท่านั้น
จากนั้นเวียดนามก็อยู่ในโอวาทจีนเป็นอันดี และเมื่อจีนยุค เติ้ง เสี่ยว ผิง หันมาใช้นโยบาย “หนึ่งประเทศ สองระบบ” คือจีนหนึ่งเดียวปกครองระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ แต่ระบบเศรษฐกิจกลับเป็นทุนนิยม เวียดนามก็เปลี่ยนตาม
ช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มีนักวิเคราะห์เศรษฐกิจวิจารณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามที่ทำท่าจะเป็นดาวรุ่งพุ่งขึ้นมาทัดเทียมไทยว่าเป็นไปได้ยาก
ถ้าจะเป็นไปได้ ก็จะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 15 ปี
แต่มาวันนี้ ผ่านการทำรัฐประหารของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชามา 8 ปี เวียดนามแซงไทยไปแล้วตั้งแต่ปีที่ 3-4 ของรัฐบาล คสช.
คงเป็นด้วยการสวนทางกัน เวียดนามพุ่งไปข้างหน้าไทยถอยมาข้างหลัง
การเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามทำให้จีนพยายามใช้เวียดนามเป็นทางผ่านสินค้าสู่ตลาดโลกโดยเฉพาะสหรัฐที่ทำสงครามกับจีน สองด้านคือ Trade War กับ Currency War
โดยอาวุธที่สหรัฐฯใช้คือกำแพงภาษีกับค่าเงินดอลลาร์ ที่อ่อนจนจีนต้องแทรกแซงหยวนให้อ่อนค่าตาม
สหรัฐเอาใจเวียดนามเพื่อให้เป็นกันชนทะเลจีนใต้ซึ่งเวียดนามมีชายฝั่งทอดยาวที่สุดในภูมิภาค จึงให้สิทธิ์พิเศษทางการค้ามากมาย จีนจึงอาศัยช่องทางนี้ ใช้เวียดนามเป็นฐานผลิตเพื่อส่งออก
นอกจากลงทุนในเวียดนามแล้ว จีนยังข้ามาลงทุนในกัมพูชา แต่ต่างจากลงทุนในเวียดนามที่ลงทุนด้านการผลิตเพื่อส่งออก
ทุนจีนเข้ามากัมพูชารูปแบบไม่ต่างจากเข้ามาลาวและไทย คือลงทุนในธุรกิจท่องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจีนด้วยกันเองและธุรกิจสีเทาโดยเฉพาะบ่อนกาสิโน มีการตั้งชุมชนจีนเพื่อประกอบกิจการในเมืองท่าสีหนุวิลล์จนถึงกับเรียกกันว่า มินิไชน่า
ห้วยขวางกับเยาวราชก็อาจจะกลายเป็นมินิไชน่าในอนาคต
จีนมุ่งมั่นที่จะสร้างเส้นทางสายไหมใหม่เลียนแบบเส้นทางสายไหมโบราณที่สร้างทอดไปถึงยุโรปด้วยจุดประสงค์ใช้เป็นเส้นทางที่ขบวนคาราวานพ่อค้าเส้นไหมจีนเดินทางนำเส้นไหมจีนไปขายที่ยุโรป
จีนให้เงินกู้จำนวนมหาศาลแก่ชาติเป้าหมายเส้นทางสายไหมใหม่ที่เรียกว่า One. Belt One Road หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง
เฉพาะอินโดจีนนั้น เริ่มต้นที่เมืองบ่อเต็นของลาวที่เป็นเมืองชายแดนติดกับคุนหมิงของจีนเป็นเส้นทางรถไฟความเร็วสูงลงมาจรดแม่น้ำโขงเพื่อข้ามมาเชื่อมกับเส้นทางรถไฟความเร็วสูงฝั่งไทย
และก็เหมือนกัมพูชา ทุนไหลเข้าลาวแล้วก็ก่อเกิดชุมชนธุรกิจขึ้น
บ่อเต็นที่เคยเป็นเมืองบ้านนอกเหงาๆก็กลายเป็นมินิไชน่า อาคารร้านรวงทันสมัย ขึ้นป้ายชื่อร้านเป็นภาษาจีนไปทั้งเมืองไม่ต่างจากย่าน “ไชน่าทาวน์” ห้วยขวาง
แม้ว่าชุมชนธุรกิจการค้าจีนในไทยจะยังมีขนาดเล็กระดับศูนย์การค้า แต่การที่ทุนจีน คนจีน แทรกซึมเข้ามาไม่ขาดสาย ซื้อกิจการต่างมากมาย แม้แต่มหาวิทยาลัย
ก็ทำให้เชื่อว่าคนจีนมุ่งมั่นเข้ามาลงหลักปักฐานอยู่ถาวร จนเมืองไทยกลายเป็นเมืองบริวารจีนอีกเมือง
จีนอพยพรุ่นก๋ง เล่าก๋ง มาแต่เสื่อผืนหมอนใบ ยังสร้างเนื้อสร้างตัวเป็นเจ้าสัวครอบครองทรัพย์สินมั่งคั่งที่สุดในประเทศได้
แต่จีนอพยพรุ่นใหม่เข้ามาพร้อมเงินทุนมหาศาล
จะเหลือแผ่นดินให้คนไทย หรือแม้แต่ไทยเชื้อสายจีนถือครองกันสักกี่กะแบะมือ ?