เสือตัวที่ 6

การพยายามเดินหน้าตามยุทธศาสตร์แยกตัวเป็นอิสระในการปกครองกันเองในพื้นที่ปลายด้ามขวานที่เรียกตัวเองว่า กลุ่ม BRN ยังคงเข้มข้นในการต่อสู้ทั้งการต่อสู้ทางความคิดอย่างกว้างขวางทุกเวที ที่มีขึ้น คู่ขนานกับการสู้รบด้วยด้วยอาวุธเพื่อสร้างความรุนแรงให้เป็นตัวเร่งให้การพูดคุยบนโต๊ะเจรจา มีความได้เปรียบเชิงอำนาจต่อรองเหนือผู้แทนของรัฐอย่างเห็นได้ชัด ปรากฏการณ์ช่วงหลังมานี้ มีการสร้างความรุนแรงครั้งใหญ่ที่สร้างความสูญเสียถึงชีวิตของคนระดับผู้นำหน่วยกำลังติดอาวุธของรัฐ ทั้งระดับร้อยเอกของกองทัพบกจากการลอบวางระเบิดขนาดใหญ่ข้างทาง และร้อยตำรวจเอกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติจากการลอบโจมตีแฟลตที่พักตำรวจและครอบครัวที่ จ.นราธิวาสเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีการเสียชีวิตไป 1 นาย และมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ควบคู่กับการยังคงเดินหน้าตามแนวทางการพูดคุยสันติสุขกับตัวทนรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ที่การพูดคุยสันติสุขที่กำลังเกิดขึ้นนี้ได้สร้างความหวังให้คนของรัฐตั้งแต่ระดับนโยบายลงมาจนถึงระดับปฏิบัติที่คาดหวังว่าจะเป็นทางออกของความขัดแย้งและนำสันติสุขมาสู่คนในพื้นที่ได้อย่างแท้จริง

หากแต่แท้ที่จริงแล้ว ยุทธศาสตร์การต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งเอกราชในการปกครองกันเองของขบวนการร้ายแห่งนี้ หาได้ลดราวาศอกในการต่อสู้กับรัฐไม่ ในทางกลับกัน ขบวนการแบ่งแยกการปกครองจากรัฐกลุ่มนี้ ยังคงเดินหน้าตามยุทธศาสตร์ด้วยการขับเคลื่อนคู่ขนานเดินหน้าสองขาเพื่อบรรลุเป้าหมายปลายทางสุดท้ายดังกล่าวอย่างเข้มข้น ตามที่แกนนำกลุ่ม BRN เคยส่งสารผ่านสื่อต่างๆ ตอกย้ำยุทธศาสตร์เดินสองขามาตลอดเพื่อบรรลุชัยชนะ โดยมีใจความสำคัญว่า เจตจำนงของ กลุ่ม BRN ไม่ได้มุ่งเอาชนะทางทหารหรือด้วยกำลังอาวุธเพียงอย่างเดียว หากแต่มุ่งเอาชนะทางการเมืองเป็นหลักนั่นก็คือการชนะทางความคิดของคนระดับนำในเวทีการพูดคุยสันติสุขไปด้วย ด้วยการต่อสู้ทางความคิดในกระบวนการพูดคุยที่กำลังมีขึ้น อันจะนำมาซึ่งชัยชนะตามแนวทางสันติวิธี

สาระสำคัญของยุทธศาสตร์เดินสองขาได้ถูกตอกย้ำผ่านการแถลงการณ์ของ ดร.นิกมะตุลเลาะห์ บิน สือรี โฆษกคณะเจรจาสันติภาพขบวนการ BRN ที่กล่าวตอนหนึ่งว่า ตั้งแต่ได้มีการจัดตั้ง BRN ขึ้นมานั้น BRN ก็ได้เลือกแนวทางการต่อสู้ด้วยยุทธศาสตร์สองขาเรื่อยมาก็คือ สู้รบแล้วก็เจรจาพูดคุย เจรจาพูดคุยแล้วก็สู้รบ BRN ใช้ยุทธศาสตร์นี้ตลอดมา และการญีฮาด (ความมุ่งมั่นพยายามถึงที่สุด) นั้นจะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อจนถึงวันสิ้นโลก ซึ่งการญีฮาดนั้นไม่ได้หมายความว่าเป็นการสู้รบด้วยอาวุธเพียงอย่างเดียว การพูดคุยเพื่อสันติภาพก็เป็นการญีฮาดอย่างหนึ่ง ดังนั้น หากว่าต้องการจะสร้างสันติภาพ ก็จะต้องสู้รบด้วยเหตุนี้ ขบวนการแห่งนี้จึงได้มีการเจรจาสันติภาพควบคู่ต่อสู้อย่างเข้มข้นของพวกเขาตลอดมา

การสูญเสียนายทหารระดับร้อยเอกของกองทัพบกจากการลอบวางระเบิดของกลุ่มกองกำลังติดอาวุธในขบวนการร้ายแห่งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งปฏิบัติหน้าที่ ชป.ฉก.นราธิวาส เดินทางโดยรถยนต์ เพื่อเข้าสนับสนุนตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุลอบวางระเบิดและซุ่มยิงราษฎรหาของป่า บริเวณที่เกิดเหตุ บนถนนสายชนบท บ้านไอร์กรอส หมู่ที่ 6 ต.จะแนะ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ตามมาด้วยการสูญเสียร้อยตำรวจเอกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในเวลาไล่เลี่ยกันจากการลอบโจมตีด้วยระเบิดรถยนต์ที่มีเป้าหมายการทำลายล้างขนาดใหญ่ถึงอาคารที่พักของข้าราชการตำรวจและครอบครัว จึงยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า ขบวนการร้ายแห่งนี้ ยังคงเดินหน้ายุทธศาสตร์เดินสองขา ทั้งการพูดคุยและการสู้รบอย่างเข้มข้นจริงจังตลอดมา

โดยเฉพาะล่าสุดที่กลุ่มกองกำลังติดอาวุธหาญกล้านำพารถยนต์ติดตั้งระเบิดขนาดใหญ่เข้าไปจอดทิ้งไว้หมายทำลายอาคารที่พักพร้อมๆ กับผู้คนอีกหลายชีวิตที่กำลังพักอาศัยอยู่บนแฟลตแห่งนี้ไปพร้อมๆ กัน ได้บ่งบอกว่า กลุ่มกองกำลังติดอาวุธของขบวนการใช้จังหวะโอกาสที่เจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่อาจลดความเข้มงวดในการระมัดระวังการก่อเหตุโจมตีลักษณะนี้ลง ด้วยสถานการณ์การพูดคุยสันติสุขที่กำลังเดินหน้าไปด้วยบรรยากาศที่มีความหวังมากขึ้นนั้น เข้าปฏิบัติการร้ายเพื่อหวังปลุกขวัญกำลังใจในการสู้รบของบรรดาสมาชิกและแนวร่วมขบวนการแห่งนี้หลังจากอาจตกต่ำลงจากการปิดล้อมไล่ล่าของเจ้าหน้าที่รัฐเมื่อหลายวันที่ผ่านมา ประกอบกับเพิ่มอำนาจการต่อรองในการพูดคุยสันติสุขกับรัฐให้คงความเหนือกว่าบนโต๊ะเจรจาที่จะส่งผลให้การพูดคุยเจรจาต่อรองกับรัฐ เป็นประโยชน์ต่อขบวนการร้ายแห่งนี้มากที่สุด

และนอกจากเพื่อเป้าหมายทางการเมืองแล้ว ยังเป็นช่องทางในการสื่อสารอย่างสอดประสาน หนุนเสริมให้กองกำลังติดอาวุธ สามารถปฏิบัติการก่อเหตุร้ายได้อย่างสะดวกขึ้นจากการลดความเข้มของเจ้าหน้าที่รัฐในการระมัดระวังเหตุร้าย ด้วยเข้าใจว่า BRN ลดปฏิบัติการทางทหารตามข้อตกลงร่วมแล้ว หากแต่แท้ที่จริงแล้ว กลุ่มขบวนการร้ายแห่งนี้ ยังใช้ขาอีกข้างหนึ่งเดินหน้าการต่อสู้ด้วยอาวุธอย่างรุนแรงแข็งกร้าวในทุกโอกาสที่ทำได้อย่างคู่ขนาน อันเป็นการหนุนเสริมให้การพูดคุยเจรจาของขบวนการแห่งนี้ ทรงพลังมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ตามกรอบคิด พูดคุยไปแล้วก็สู้รบไป  สู้รบไปแล้วก็เจรจาไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายเมื่อใดก็เมื่อนั้น เพราะขบวนการเชื่อว่าสันติภาพและชัยชนะของขบวนการไม่ได้มาด้วยการร้องขอ หากแต่ต้องได้มาด้วยการช่วงชิงและการให้เอกราชคืนดินแดนของพวกเขามาด้วยการยอมจำนนของผู้ยึดครองเท่านั้น เหล่านี้นับเป็นการยืนยันกรอบคิดในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การต่อสู้กับรัฐแบบเดินสองขา เพื่อแยกตัวเป็นรัฐอิสระตามเป้าหมายสุดท้ายของขบวนการอย่างเข้มข้น