เสือตัวที่ 6

ในขณะที่ กลุ่มต่อต้านอำนาจรัฐ เพื่อแยกตัวเป็นอิสระในการปกครองกันเองในพื้นที่ปลายด้ามขวานที่เรียกตัวเองว่า กลุ่ม BRN ได้ประกาศตามความเห็นร่วมกับผู้แทนฝ่ายรัฐในเวทีการพูดคุยสันติสุขที่ผ่านมาเพื่อแสดงความตั้งใจจริงในการแสวงหาสันติภาพให้เกิดขึ้นในพื้นที่แห่งนี้ว่า กลุ่ม BRN ตกลงที่จะลดการปฏิบัติการทางทหารลงให้เป็นรูปธรรมโดยเฉพาะในช่วงที่กระบวนการพูดคุยสันติสุขกำลังเดินหน้าไป โดยแสดงเจตจำนงว่า กลุ่ม BRN ไม่ได้มุ่งเอาชนะทางทหารหรือด้วยกำลังอาวุธ หากแต่มุ่งเอาชนะทางการเมืองเป็นหลัก ด้วยการต่อสู้ทางความคิดในกระบวนการพูดคุยที่กำลังมีขึ้น อันจะนำมาซึ่งชัยชนะตามแนวทางสันติวิธี แต่กระนั้น เมื่อวันที่ 13 ที่ผ่านมา ก็เกิดการสูญเสียนายทหารระดับร้อยเอกของกองทัพบกจากการลอบวางระเบิดของกลุ่มกองกำลังติดอาวุธของขบวนการร้ายแห่งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งปฏิบัติหน้าที่ ชป.ฉก.นราธิวาส เดินทางโดยรถยนต์ เพื่อเข้าสนับสนุนตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุลอบวางระเบิดและซุ่มยิงราษฎรหาของป่า เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ บนถนนสายชนบท บ้านไอร์กรอส หมู่ที่ 6 ต.จะแนะ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส

การสูญเสียนายทหารระดับนี้นับว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งปวงชนชาวไทยทั้งหลาย ควรสดุดีในวีรกรรมด้วยการเสียสละแม้กระทั่งชีวิตเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินนี้ไว้ให้ลูกหลานต่อไป และภาครัฐทั้งหลายในระดับนโยบาย ควรตระหนักถึงการต่อสู้กับภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติในพื้นที่แห่งนี้ด้วยความจริงจังจริงใจ เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียเช่นนี้ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นอีก ด้วยเพราะการสูญเสียนายทหารระดับนี้ที่กว่ากองทัพจะสร้างมานั้น นับว่าเป็นการสูญเสียที่ไม่คุ้มค่าใดๆเลยจากการสูญเสียแบบง่ายๆนี้ ซึ่งเป็น ข้อบ่งชี้สำคัญที่ชัดเจนว่า การต่อสู้ของขบวนการแบ่งแยกดินแดนปลายด้ามขวานในพื้นที่แห่งนี้ไม่ได้ลดละความพยายามในการต่อสู้กับรัฐเพื่อให้ได้มาซึ่งเอกราชในดินแดนแห่งนี้แต่อย่างใด ในทางตรงข้าม ฝ่ายขบวนการร้ายแห่งนี้ ยังใช้กลยุทธ์อันซับซ้อนซ่อนเงื่อน หลอกล่อให้ฝ่ายรัฐเพลี่ยงพล้ำซ้ำแล้วซ้ำอีกจนได้ ด้วยท่าทีล่าสุดที่กลุ่ม BRN พยายามสื่อสารผ่านเวทีการพูดคุยกับรัฐว่า จะลดความรุนแรงลงจากการใช้อาวุธเข้าทำลายล้างฝ่ายรัฐเฉกเช่นที่ผ่านมา และจะใช้การต่อสู้ทางความคิดเพื่อชัยชนะทางการเมืองเป็นหลักแทน

แต่เหตุการณ์วันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา ยังความสูญเสียนายทหารหลักของกองทัพของรัฐจึงเป็นการย้อนแย้งกับเหตุผลข้อกล่าวอ้างผ่านเวทีพูดคุยอย่างชัดเจน การก่อเหตุร้ายลอบวางระเบิดลูกที่สองด้วยการวางแผนอย่างเป็นระบบของกองกำลังติดอาวุธของขบวนการร้ายแห่งนี้ จึงเป็นการตั้งใจที่จะทำลายล้างฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐอย่างเห็นได้ชัด ด้วยตรรกะของการต่อสู้กับรัฐรูปแบบใหม่ที่ BRN ใช้ยุทธศาสตร์เดินสองขา ที่ขาด้านหนึ่งใช้การพูดคุยเจรจาต่อสู้ทางความคิดด้วยองค์ความรู้และตรรกะในการเจรจาต่อรองของฝ่าย BRN ที่เข้มแข็ง พร้อมมูลด้วยเหตุผลต่างๆ ที่ยกมาพูดคุยกับตัวแทนฝ่ายรัฐ เพื่อเป้าหมายทางการเมืองแล้ว ยังเป็นช่องทางในการสื่อสารอย่างสอดประสาน หนุนเสริมให้กองกำลังติดอาวุธ สามารถปฏิบัติการก่อเหตุร้ายได้อย่างสะดวกขึ้นจากการลดความเข้มของเจ้าหน้าที่รัฐในการระมัดระวังเหตุร้าย ด้วยเข้าใจว่า BRN ลดปฏิบัติการทางทหารตามข้อตกลงร่วมแล้ว หากแต่แท้ที่จริงแล้ว กลุ่มขบวนการร้ายแห่งนี้ ยังใช้ขาอีกข้างหนึ่งเดินหน้าการต่อสู้ด้วยอาวุธอย่างรุนแรงแข็งกร้าวในทุกโอกาสที่ทำได้อย่างคู่ขนาน นับเป็นกรอบคิดในการวางยุทธศาสตร์การต่อสู้กับรัฐแบบเดินสองขา เพื่อแยกตัวเป็นรัฐอิสระตามเป้าหมายสุดท้ายของขบวนการอย่างเข้มข้น

ในขณะที่ฐานปฏิบัติการหลักของกลุ่มติดอาวุธ RKK ได้ปรับรูปแบบจากฐานปฏิบัติการที่ซ่องสุมอยู่ในพื้นที่ป่าเขาและเชิงเขาใกล้หมู่บ้าน ไปเป็นฐานที่มั่นในหมู่บ้าน แทรกปนไปกับประชาชนในหมู่บ้านที่เป็นแนวร่วมขบวนการเป็นหลักอย่างแยบยล โดยมีมวลชนจัดตั้งที่อยู่ในหมู่บ้าน คอยให้การสนับสนุนการส่งกำลังอาหาร ยาเวชภัณฑ์สำคัญ และการหาข่าวฝ่ายรัฐ โดยการสนับสนุนทุกขั้นตอน ทั้งขั้นการรวมกำลัง วางแผน เตรียมการก่อเหตุร้าย และการหลบหนีหลังก่อเหตุร้าย ให้กับกองกำลังติดอาวุธ RKK ที่แอบแฝงแทรกปนอยู่ในนั้นอย่างแนบเนียน พร้อมๆ กับการสร้างแนวร่วมขบวนการหน้าใหม่อย่างไม่รู้จบด้วยการแทรกปนการบ่มเพาะความเห็นต่างให้เกิดกับเด็กและเยาวชนในสถานศึกษาต่างๆ ทั้งของรัฐและเอกชน จนนำไปสู่ความเกลียดชังรัฐและผู้เห็นต่างอย่างสุดโต่ง สู่การเป็นแนวร่วมขบวนการต่อสู้กับรัฐอย่างเข้มแข็งที่หน่วยงานภาครัฐยังเข้าไปไม่ถึงเรื่องเหล่านี้อย่างแท้จริง                  

บนความพยายามแสวงหาทางออกของปัญหาความขัดแย้งตามกระบวนการพูดคุยสันติสุข ระหว่างคณะผู้แทนของรัฐไทยกับแกนนำผู้แทนของฝ่ายขบวนการ BRN ที่มีมาเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง หากแต่แท้ที่จริงแล้ว เจตจำนงของขบวนการนี้มีความอย่างชัดเจนตอกย้ำผ่านความเห็นของ ดร.นิกมะตุลเลาะห์ บิน สือรี โฆษกคณะเจรจาสันติภาพขบวนการ BRN ที่กล่าวตอนหนึ่งว่า ตั้งแต่ได้มีการจัดตั้ง BRN ขึ้นมานั้น BRN ก็ได้เลือกแนวทางการต่อสู้ด้วยยุทธศาสตร์สองขาเรื่อยมาก็คือ สู้รบแล้วก็เจรจาพูดคุย เจรจาพูดคุยแล้วก็สู้รบ BRN ใช้ยุทธศาสตร์นี้ตลอดมา และการญีฮาด (ความมุ่งมั่นพยายามถึงที่สุด) นั้นจะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อจนถึงวันสิ้นโลก ซึ่งการญีฮาดนั้นไม่ได้หมายความว่าเป็นการสู้รบด้วยอาวุธเพียงอย่างเดียว การพูดคุยเพื่อสันติภาพก็เป็นการญีฮาดอย่างหนึ่ง ดังนั้น หากว่าต้องการจะสร้างสันติภาพ ก็จะต้องเตรียมพร้อมที่จะสู้รบด้วย ด้วยเหตุนี้ ขบวนการแห่งนี้จึงได้มีการเจรจาสันติภาพกับคู่ต่อสู้ของพวกเขาตลอดมา

สิ่งสำคัญที่สุดคือ เป้าหมายเพื่อการสร้างสันติภาพในรูปแบบที่ขบวนการต้องการ โดย ดร.นิกมะตุลเลาะห์ กล่าวย้ำว่า มีบัญชาจากพระเจ้าที่เกี่ยวข้องมุสตัฏอาฟีนในกุรอานมีใจความว่า การปกป้องตนเองด้วยกำลังอาวุธสอดคล้องกับการส่งข้อความไปยังคู่ต่อสู้อย่างเฉพาะเจาะจงเท่านั้น กล่าวคือเพื่อที่รัฐไทยจะได้ปลดปล่อยตนเองจากการข่มเหงต่างๆ และปลดปล่อยดินแดนที่ยึดมาให้เจ้าของเดิมซึ่งคือชาวปาตานี ทว่าเอกราชหรือชัยชนะนั้นเป็นสิ่งที่เราจะต้องช่วงชิงให้ได้มา ไม่ใช่ด้วยการอ้อนวอนร้องขอ เพราะฉะนั้นถ้าจะให้การต่อสู้ประสบความสำเร็จนั้นก็จะต้องมีการต่อสู้ด้วยอาวุธควบคู่ตามไปด้วยอย่างสอดประสาน เพื่อการสืบทอดเจตจำนงอันแน่วแน่ของการต่อสู้ด้วยยุทธศาสตร์เดินสองขาอย่างทรงพลัง