วันที่ 23 ตุลาคมวันปิยมหาราช เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่พสกนิกรชาวไทยจะได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ พระปรีชาสามารถและพระราชกรณียกิจของพระองค์ ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติอย่างอเนกอนันต์หลายด้าน
ไม่ว่าจะเป็นด้านการปกครอง ด้านการพัฒนาประเทศให้ทัดเทียมกับความเจริญชองชาติตะวันตก การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม และสาธารณูปโภคต่างๆ การเลิกทาส
เว็บไซต์จุฬาลงกรณ์ ราชบรรณาลัย เผยแพร่พระอัจฉริยภาพด้านการปกครองไว้ดังนี้
“...เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นไปของโลก และด้วยทรงตระหนักถึงภยันตรายของลัทธิแสวงหาอาณานิคมของมหาอำนาจตะวันตกที่กำลังแผ่เข้ามาในเวลานั้น จึงทรงพยายาม ปรับปรุงระบบการปกครองให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดการปฏิรูประเบียบวิธีการปกครองให้ทันสมัยขึ้นหลายอย่าง โดยทรงเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคให้เหมาะสมกับยุคสมัยหลายประการ อาทิเช่น
ทรงตั้งสภาที่ปรึกษาราชการแผ่นดินและสภาองคมนตรีเป็นที่ปรึกษาราชการแผ่นดินในปี พ.ศ. 2417
ทรงประกาศตั้งกระทรวง 12 กระทรวง ในปี พ.ศ. 2435
ทรงยกเลิกการจัดเมืองเป็นชั้นเอก โท ตรี จัตวา เป็นการปกครองแบบเทศาภิบาลคือรวมหัวเมืองเข้าเป็นมณฑล
มีการตราพระราชบัญญัติปกครองท้องที่ทีละมณฑลภายใต้การกำกับดูแลของข้าหลวงเทศาภิบาลที่ส่งไปจากส่วนกลาง โดยเริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2437
โปรดเกล้าฯ ให้ยกเลิกระบบไพร่ ระบบทาส เพื่อปลดปล่อยประชาชนพลเมืองให้พ้นจากพันธะอันรัดตัวต่าง ๆ ทำให้ประชาชนทั้งชาติมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกัน...”
ทั้งนี้ การเลิกทาสนี้เอง เป็นพระราชกรณียกิจสำคัญ ที่ทำให้ “ไทยเป็นไท”มาจนถึงทุกวันนี้ ทำให้พระองค์ทรงได้รับพระราชสมัญญาว่า “พระปิยมหาราช” ซึ่งแปลว่า พระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชน
ปวงข้าพระพุทธเจ้าปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมรําลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้