นับถอยหลังอีกไม่กี่ชั่วโมง ไม่กี่อึดใจข้างหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัย วาระ 8ปี  การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะออกมาหน้าไหน จะเป็น คุณ หรือ โทษ ในเวลา บ่ายสามโมง ! ต้องถือว่า คดีวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ นั้นเป็นด่านสุดท้ายที่จะชี้ชะตา ทั้งตัวพล.อ.ประยุทธ์ ตลอดจน ทุกองคาพยพ  ทุกกลไกทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายการเมืองที่เชื่อมโยงกับบิ๊กตู่เอง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  เพราะหากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยออกมาในทางที่เป็น โทษ โดยมีเสียงข้างมาก ชี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกฯ ครบ 8ปีแล้ว การเมืองจะเดินหน้าเข้าสู่โหมดที่เรียกว่า ตึงเครียด  ตามมาทันที 

 โดยเฉพาะการเข้าสู่กระบวนการ หานายกฯคนใหม่ ในรัฐสภา ว่าที่ประชุมทั้งส.ส.และ 250ส.ว.จะยกมือโหวตสนับสนุนใคร ให้ขึ้นมาทำหน้าที่เป็นนายกฯ เนื่องจากชื่อในบัญชีนายกฯนั้นยังมีทั้งจากพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย แต่สำหรับ พรรคพลังประชารัฐ  เอง จะต้องผลักดัน ให้ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะรักษาการนายกฯ ขึ้นมาคุมเกมต่อให้ได้ 

 ขณะเดียวกัน ผลลัพธ์ในทางการเมือง จะเกิดเป็น ระลอก ตามมา เป็นลำดับต่อไป โดยเฉพาะในจังหวะของการช่วงชิงความได้เปรียบ เสียเปรียบก่อนถึงการลงสนามเลือกตั้ง ซึ่งแน่นอนว่า ทุกพรรคทุกค่าย ต้องการทั้ง กระแส และ กระสุน 


 อย่างไรก็ดี สำหรับพรรคพลังประชารัฐแล้ว อาจเกิดปัญหาความระส่ำระสายตามมา เมื่อในการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่สามารถชูกระแสบิ๊กตู่ ได้อีก แต่ขณะเดียวกัน การหนุนชื่อพล.อ.ประวิตร อาจเป็นการ เปิดประตู รับไมตรีจาก ทุกขั้ว ทว่าก็ต้องแลกกับ สัมพันธภาพ  ของ พี่น้อง 3ป. จะอยู่กันอย่างไรต่อไป 

 และหากศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินออกมาให้พล.อ.ประยุทธ์ ได้ ไปต่อ  จะเท่ากับเป็นการ ปลุกเร้า ให้ ม็อบ สารพัดกลุ่ม ใช้เป็น เงื่อนไข ชุมนุมเคลื่อนไหวกันอย่างกว้างขวางตามมาหรือไม่ เพราะอย่างน้อยที่สุด ม็อบแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ ประกาศแล้วว่า ถ้าประยุทธ์ไปต่อ ประชาชนลงถนน 

 สถานการณ์ทางการเมืองวันนี้ ดูเหมือนว่า ไม่ว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จะออกมาทิศทางไหน หลายสิ่งหลายอย่าง ก็ดูจะ ติดล็อค  ติดกับดักไปเสียทุกทาง !