การออกมาฟาดงวงฟาดงาเข้าใส่กันของ 2พรรค ที่อยู่ร่วมรัฐบาลเดียวกัน ระหว่าง พรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกตัวแรง เบรกร่างพ.ร.บ.กัญชา ที่นำเสนอโดย พรรคภูมิใจไทย  จนทำให้ แกนนำ จากทั้ง2พรรค ตั้งแต่ระดับ บิ๊กเนม ไปจนถึงส.ส.ในสนาม ออกอาการฮึ่มฮั่มกันเอง 

 กลายเป็น ช่องโหว่ ที่เปิดหน้าให้ ฝ่ายค้าน ฉวยจังหวะเอาไป ขยายแผล ซ้ำเติมสถานการณ์ทำนองว่า เมื่อถึงช่วงเข้าโค้งสุดท้าย เรือเหล็ก ทำท่าว่า จะไปด้วยกันยาก 
 แม้ล่าสุด จะมีการโชว์ภาพชื่นมื่นระหว่าง เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นั่งอยู่กับ หมอตี๋ สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  เพื่อสยบข่าว ร้าวลึก ก็ตามที แต่ดูเหมือนว่าคลื่นลม ยังไม่นิ่ง

 ในการประชุมครม. เมื่อวันที่ 20 ก.ย.65 ที่ผ่านมา บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรักษาการนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พูดถึงเรื่องนี้ว่า  ไม่มีอะไร ทำงานด้วยกันเรียบร้อย ไม่มีอะไร เรียบร้อยดี 
 นาทีนี้ต้องยอมรับว่า เอกภาพ  คือความสำคัญสำหรับรัฐบาล ที่มีพล.อ.ประวิตร นั่งรักษาการนายกฯ และในจังหวะที่ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ยังคงอยู่ในความนิ่ง เพื่อรอฟังคำวินิจฉัยวาระ 8ปีในการดำรงตำแหน่งนายกฯ ในวันที่ 30 ก.ย.นี้ 

 ไม่ว่า ฝ่ายค้านหรือฝ่ายแค้น หรือกองแช่งจะประเมินว่า พล.อ.ประยุทธ์ อาจไม่ได้ไปต่อ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรือเหล็ก  ของ พี่น้อง 3ป. ต้องได้ไปต่อ ทั้งหลังจากวันที่ 30 ก.ย. ไปจนถึงการเลือกตั้งรอบหน้า ซึ่งถูกคาดการณ์ว่าจะมีขึ้นในปี 2566 
 การเคลื่อนไหวของพล.อ.ประวิตร ทั้งการลงพื้นที่เพื่อตรวจราชการ และติดตามการแก้ปัญหาน้ำท่วมในหลายต่อหลายจังหวัด ตลอดเดือนก.ย.นี้ ไม่ว่าจะถูกมองว่าเป็นการทำหน้าที่รักษาการนายกฯเพื่อรักษา ที่นั่ง ให้กับ น้องรัก  อย่างพล.อ.ประยุทธ์ ก็ตามที 

 แต่ที่ลึกไปกว่านั้น ทั้งหลายทั้งปวง คือการเดินเกมเพื่อสะสมทุกความพร้อม เตรียมลงสนามเลือกตั้ง เตรียมลงเล่นใน กระดานการเมือง ชุดใหม่ เป็นภาคต่อ ของ 3ป. อยู่ดี !